ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และในฐานะ “ประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38” เปิดเผยว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด REACH TO THE PLANET OF TECHNOLOGY - พุ่งทะยานสู่โลกแห่งเทคโนโลยียานยนต์ หวังแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยีแห่งนวัตกรรมยานยนต์ พร้อมเชิญชวนให้มาสัมผัสกับงานแสดงยนตรกรรมที่ปลุกอารมณ์แห่งความเร้าใจในโลกยนตรกรรมอย่างแท้จริง
“สำหรับการจัดงานในปีนี้ ยังคงได้รับการสนับสนุนจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และสมาคมชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ เป็นอย่างดี”
อีกทั้ง... คณะผู้จัดงานฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ยังคงได้การตอบรับเข้าร่วมงานจากแขกผู้มีเกียรติ และท่านสื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก นับเป็นสัญญาณที่ดี บ่งบอกได้ถึงความสำคัญของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ช่วยส่งเสริมให้เห็นภาพลักษณ์และการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระดับภูมิภาค และจะถูกเผยแพร่ผ่านสื่อทุกแขนงออกไปสู่สายตาคนทั่วโลก
ไฮไลต์สำคัญ ยังคงอยู่ที่บริษัทรถยนต์และจักรยานยนต์ทุกค่าย ยังคงให้ความร่วมมือในการนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ไปจนถึง ‘รถต้นแบบ’ รุ่นล่าสุด นอกจากผู้ชมงานจะได้สัมผัสกับรูปลักษณ์การออกแบบที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยว จะยังได้พบกับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า ที่จะถูกนำมาจัดแสดงมากขึ้น เพื่อให้ผู้ชมงานได้รับรู้ถึงวิทยาการในอนาคตที่จะมาทำตลาดในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ นอกจากจะเป็นงานที่รวบรวมเทคโนโลยียานยนต์ไว้มากที่สุดงานหนึ่งแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้เป็นอย่างดี เพราะตลอดการจัดงาน นับตั้งแต่การก่อสร้างบูธไปจนถึงการจัดแสดงในวันสุดท้าย มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนหนึ่งเป็นเงินหมุนเวียนที่กระจายไปสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ การออกแบบก่อสร้าง การขนย้ายรถยนต์และอุปกรณ์ และเกิดการจ้างงานไปยังบุคลากรต่าง ๆ และอีกส่วนหนึ่งจะเกิดขึ้นจากยอดจองและสั่งซื้อรถภายในงาน
“ในฐานะผู้จัดงาน เชื่อมั่นว่าความพิเศษของงานบางกอก มอเตอร์โชว์ นอกจากจะเป็นงานจัดแสดงยนตรกรรมล้ำสมัยแล้ว ยังเป็นงานที่สร้างบรรยากาศให้เกิดความคึกคักมากยิ่งขึ้นในตลาดรถยนต์ประเทศไทย ผู้บริโภคมีโอกาสในการตัดสินและมีทางเลือกหลากหลายภายในงานเดียว ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยอดขายในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในช่วงการจัดงานและหลังจบงานได้เป็นอย่างดี”
ดร.ปราจิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปี 2560 ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ตัวเลขยอดขายรถยนต์ในปีนี้ไว้ที่ 8-8.1 แสนคัน เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ มีทิศทางที่ดีขึ้น การออกมาประกาศค่า GDP ของกระทรวงการคลัง ว่าจะมีอัตราเติบโตในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 3.5% นั้น น่าจะเป็นตัวบ่งบอกถึงแนวโน้มที่ดีของเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย
ประกอบกับปัจจัยบวกที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มีการเลื่อนมาตั้งแต่ปลายปี 2559 จะเริ่มทยอยกลับมาเปิดตัวสู่ตลาดในปีนี้ ซึ่งน่าจับตาในกลุ่มของรถยนต์นั่งที่เชื่อว่าจะมีการแข่งขันกันสูงมาก เพราะนับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวรถยนต์นั่งทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนในตลาดรถพรีเมียมก็จะยังคงความร้อนแรงไว้ไม่แพ้ปีที่ผ่านมา เพราะมีผู้เล่นในตลาดมากยิ่งขึ้น การแข่งขันทั้งในเรื่องโปรโมชัน แคมเปญ การแนะนำยนตรกรรมรุ่นใหม่ก็น่าจะมีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
อีกปัจจัยสำคัญ คือ การสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกและสิทธ์ในการถือครองนาน 5 ปี ที่เพิ่งจะเริ่มทยอยหมดลงตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าในกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้จะเริ่มหันมาให้ความสนใจและมีความต้องการจะเปลี่ยนรถคันใหม่ แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะเลือกซื้อรถในกลุ่มใด เพราะอาจจะมีการขยับไซส์รถที่ใหญ่ขึ้น หรืออาจจะยังเลือกซื้อรถในกลุ่มขนาดเล็กเช่นเดิมก็ได้ และการลดความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงการเป็นเจ้าของรถได้ง่ายกว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา