เจ้า TOYOTA VIGO คันที่เราเห็นอยู่นี้ เป็นรถแรงจากสำนัก เอย เรซซิ่งช็อป สระบุรี โดยความเป็นมาของ VIGO ตัวแสบคันนี้ถือว่ามีความเป็นมาที่ยาวนานไม่น้อยทีเดียว เพราะในยุคเริ่มต้นของดีเซลคอมมอนเรล เคยจับเอา VIGO คันนี้มาทำเป็นตัวแข่งโดยมีจุดเด่นตรงที่ใช้ชุดเกียร์ซิ่ง HKS ซึ่งผลงานก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาอยู่ในระดับหัวแถวเช่นกัน ก่อนหน้าจะหันไปเน้นกับการทำธุรกิจฟาร์มปลา จนทิ้งช่วงห่างจากวงการไประยะหนึ่ง ทว่าหลังจากที่กลับมาเปิดสำนักเอย เรซซิ่งช็อป จึงจับเอาเจ้า VIGO คันนี้มาแต่งเอาไว้โชว์ โดยแรกๆก็เป็นการแต่งโชว์ เพื่อการประชาสัมพันธ์สินค้าของทางร้าน โดยที่ยังคงสภาพเป็นรถที่ใช้งานทั่วๆไป อย่างไรก็ตามเมื่อได้เริ่มทำโมดิฟายกันไป มันแบบอย่างที่เห็น หัวใจ 1KD ประกบเทอร์โบใหญ่ TF08

ในส่วนของเครื่องยนต์ 1KD ที่บอกว่าทำให้แรงยากนั้นสาเหตุหนึ่งก็คือ ไม่ค่อยมีอุปกรณ์อะไหล่ให้เลือกใช้กันมากนัก ดังนั้นในส่วนของอุปกรณ์อะไหล่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสแตนดาร์ดจากโรงงานไม่ว่าจะเป็นแคมฯ ลูกสูบ ก้านสูบ อย่างไรก็ตามมีจุดทีได้รับการปรับแต่งใหม่ในหลายจุดเช่นกัน อย่างฝาสูบ และเทอร์โบ TF08 เป็นฝีมือการจัดการของ ตี๋ ปากน้ำ ซึ่งการควบคุมแรงดันบูสต์มี เวสต์เกตแยก OTOP มาเป็นตัวช่วย ส่วนการเดินท่อทั้งท่อไอเสีย ท่ออินเตอร์ทั้งหมด รวมถึงหม้อน้ำอลูมิเนียมที่มาพร้อมการระบายความร้อนด้วยพัดลมไฟฟ้าเป็นผลงานจาก จิตร เฮดเดอร์

กล่อง STAND จาก ECU เป็นที่ทราบกันดีกับบรรดาสำนักโมดิฟายที่พยายามหาหนทางในการสร้างความแรงให้กับเครื่องยนต์ 1KD ว่าจำเป็นต้องจัดการกับระบบเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่ง VIGO คันนี้ ได้จัดการเสริมสมรรถนะในส่วนนี้เข้าไปพอสมควรเริ่มด้วยการติดตั้งปั๊มติ๊กแยกนอกถังของ BOSCH เข้าไปถึง 2 ตัว โดยมีเรคกูเลเตอร์ ของ AEROMOTIVE รับหน้าที่คุมแรงดันเชื้อเพลิงให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปั๊มคอมมอนเรลเปลี่ยนมาใช้ปั๊มแบบ 3 โรเตอร์พร้อมกับเสริมปั๊มโยงเข้าไปช่วยสร้างแรงดันให้มากเพียงพอในยามที่บูสต์หนักๆ ส่วนหัวฉีดที่มาเป็นตัวจ่ายเชื้อเพลิงเลือกใช้หัวฉีด GTX MAX และสมองในการสั่งงานมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของกล่อง STAND ALONE จาก ECU SHOP โดยมีทางด้านของ หมัด ECU เป็นผู้ปรับจูน ซึ่งอัตราบูสต์ที่ตั้งไว้อยู่ราวๆ 70 ปอนด์

จากสเต็ปที่มีการปรับแต่ขุมพลังกันมาเชื่อว่าน่าจะสร้างพลังกันได้ไม่น้อยกว่า 500 แรงม้า ด้วยเหตุนี้ในเรื่องของระบบส่งกำลังจึงเลือกที่จะนำเอาเกียร์จาก OS GIKEN มาเป็นตัวถ่ายทอดกำลัง และมีคลัทช์จาก BRC ช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงในการส่งกำลังไปยังชุดเฟืองท้ายอัตราทด 2.9 ที่หยิบยืมมาจาก ISUZU D-MAX ซึ่งก็จัดว่าลงตัวทีเดียว
ช่วงล่างแน่นๆสไตล์ โคยาเบิร์ด

เมื่อจัดมาแบบหนักๆขนาดนี้เรื่องของช่วงล่างย่อมไม่ถูกมองข้าม โดยมีการส่งไปให้ โคยาเบิร์ด ที่มีความแน่นอนมากเป็นผู้ปรับปรุงให้ โดยจุดเด่นก็จะอยู่ที่ช่วงล่างด้านหลังที่มีการคำนวณสร้างจุดยึดใหม่พร้อมกับสร้างเป็นแทร็กชั่นอาร์ม ค้ำยันเพลาเอาไว้ให้รถมีความสเถียรอย่างเต็มที่ในยามออกตัวแรงๆ ขณะเดียวกันก็เสริมความหนึบด้วยโช้ค AFCO ที่เป็นโช้คซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถแดร็กโดยเฉพาะ ส่วนล้อและยางมาตามสูตรด้วยล้อ WELD RACING ที่มาคู่กันกับยาง HOOSIER โดยด้านหน้าเป็นยางขนาด 26/4.5-15 ส่วนยางขนาด 28/10.5-15
ภายนอกเรซซิ่ง ภายในเต็มสไตล์ตัวแข่ง

มาดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องบอกว่าบ่งบอกถึงความเป็นตัวแรงได้พอสมควร อย่างไรก็ตามที่มุมมองด้านหน้ายังคงความหรูด้วยกระจังหน้าของ VIGO CHAMP เดิมๆจากโชว์รูม จากนั้นลดน้ำหนักพร้อมเพิ่มความเฉี่ยวด้วยฝากระโปรงหน้า แก้มหน้า รวมถึงประตูทั้งซ้าย-ขวา เปลี่ยนมาใช้เป็นวัสดุคาร์บอน เช่นเดียวกับกระจกมองข้างลดแรงลมต้านด้วยกระจก CRAFT SQUARE เท่านี้ก็หล่อพร้อมรบแล้ว

ส่วนที่ภายในห้องโดยสารต้องบอกว่าเกลี้ยงเกลา เพราะรื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นออกหมด แล้วจัดการเสริมความปลอดภัยด้วยโรลบาร์เต็มลำ ในช่องวิทยุถูกเปลี่ยนเป็นที่ติดตั้งสวิทช์ควบคุม ด้านเกจ์วัดที่เสริมเข้ามามีวัดบูสต์ AUTO METER ติดตั้งอยู่ทางด้านมุมขาวของผู้ขับขี่ เคียงข้างกับจอ SMART GAUGE ส่วนที่กระจกด้านผู้โดยสารติดตั้งชุดเกจ์จาก DEFI เอาไว้ครบ 6 ตัว ขณะที่พวงมาลัยเลือกคบกับ SPARCO ด้านเบาะนั่งอิงกระแสกับเบาะ KIRKEY