จำนวนผู้เข้าชม : 4612 ครั้ง
End Page
 
 
สัญลักษณ์ 'วัตถุอันตราย' น่ารู้...

       วัตถุอันตราย หมายถึง สาร สิ่งของ วัตถุหรือวัสดุๆ ที่อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพและวามปลอดภัยของคน สัตว์ ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อม ระหว่างทำการขนส่ง ซึ่งแยกเป็น 9 ประเภทดังนี้

       ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด (Eplossives) หมายถึง ของแข็ง หรือหของเหลว หรือสารผสมที่สามารถเกิดปฏิกิริยาทางเคมีด้วยตนเอง ทำให้เกิดก๊าซที่มีความดันและความร้องอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการระเบิดสร้างความเสียหายบริเวณโดยรอบได้ และให้รวมถึงสารที่ใช้ทำดอกไม้เพลิง และสิ่งของที่ระเบิดด้วย แยกเป็น 6 ประเภทย่อย คือ

            สารหรือสิ่งของที่ก่อให้เกิดอันตรายจากากรระเบิดรุนแรงทันทีทันใดทั้งหมด (Mass ezplosion)

            สารหรือสิ่งของที่มีอันตรายจากากระเบิดแตกกระจายแต่ไม่ระเบิดทันทีทันใดทั้งหมด

            สารหรือสิ่งของที่ที่มีอันตรายต่อการเกิดเพลิงไหม้ และอาจมีอันตรายจากการระเบิด หรือการระเบิดแตกกระจายร่วม แต่ไม่ระเบิดทันทีทันใดทั้งหมด

            สารหรือสิ่งของที่ไม่แสดงความเป็นอันตรายอย่างเด่นชัด หากเกิดการประทุหรือประทุในระหว่างการขนส่ง จะเกิดความเสียหายเฉพาะภาชนะบรรจุ

            สารทีที่มีความไวต่อการระเบิด แต่หากมีการระเบิดจะมีอันตรายจาการระเบิดทั้งหมด

            สิ่งของที่ไวต่อการระเบิดน้อยมาก และไม่ระเบิดพร้อมกันทั้งหมด มีความเสี่ยงต่อการระเบิดอยู่ในวงจำกัดเฉพาะในสิ่งของนั้นๆ ไม่มีโอกาสที่จะเกิดการประทุหรือแผ่กระจายในทางทำการขนส่ง

       ประเภทที่ 2 ก๊าซ (Gases) หมายถึง สารที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส มีความดันไอมากกว่า 300 กิโลปาสกาล ซึ่งได้แก่ ก๊าซอัด ก๊าซพิษ ก๊าซอยู่ในสภาพของเหลวอุณหภูมิต่ำและให้รวมถึงก๊าซที่ละลายในสารภายใต้ความดันด้วย แยกเป็น 3 ประเภทย่อย คือ

     ก๊าซไวไฟ (Flammabel gases) หมายถึง ก๊าซที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และมีความดัน 101.3 กิดลปาสกาล สามารถติดไฟได้เมื่อสัมผสมกับอากาศ 13 เปอร์เซ็นต์หรือต่ำกว่าโดยปริมาตรหรือมีช่วงกว้างที่สามารถติดไฟได้ 12 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเมื่อผสมกับอากาศ โดยไม่คำนึงถึงความเข้มข้นต่ำสุดของการผสม

     ก๊าซไวไฟและไม่เป็นพิษ (Non-flammable, non-toxc gases) หมายถึง ก๊าซที่ขณะขนส่งมีความดันไม่น้อยกว่า 280 กิโลปาสกาลที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส หรืออยู่ในสภาพของเหลวอุณหภูมิต่ำ

     ก๊าซพิษ (Toxic gases) หมายถึง ก๊าซที่มีคุณสมบัติเป็นที่ทราบทั่วกันไป หรือได้มีการสรุปว่าเป็นพิษหรือกัดกร่อน หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

     ประเภทที่ 3 ของเหลวไวไฟ (Flammable liquids) หมายถึง ของเหลว หรือของเหลวผสม หรือของเหลวที่มีสารแขวนลอยผสมซึ่งมีจุวาบไฟไม่เกิน 60.5 องศาเซลเซียส กรณีทดสอบด้วยถ้วยปิด (close-cup test) หรือไม่เกิน 65.6 องศาเซลเซียส กรณีทดสอบด้วยถ้วยเปิด (close-cup test) และให้รวมถึงของเหลวที่ขณะขนส่งถูกทำให้มีอุณหภูมิเท่ากับหรือมากกว่าจุดวาบไฟของเหลวนั้น และสารหรือสิ่งของที่ทำให้อุณหภูมิจนเป็นของเหลวขณะทำการขนส่ง ซึ่งเกิดไอระเหยไวไฟที่อุณหภูมิไม่มากกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่ใช้ในการขนส่ง

     ประเภทที่ 4 ของแข็งไวไฟ สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง และสารที่สัมผัสกับน้ำแล้วทำให้เกิดก๊าซไวไฟ (Flammable Solids, Substances Liable to spontaneous combustion, Substances whice in contact with water emit flammable gases) แยกเป็นประเภทย่อย คือ

            ของแข็งไวไฟ (Flammable Solids) หมายถึง ของแข็งที่ระหว่างทำการขนส่งสามารถที่จะติดไฟได้ง่าย หรืออาจทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นได้จากการเสียดสี สารหรือสารที่เกี่ยวข้องที่มีแนวโน้มที่จะเกิดปฏิกิริยาคายความร้อนที่รุนแรง และให้รวมถึงวัตถุระเบิดที่ถูกลดความไวต่อการระเบิด ซึ่งอาจระเบิดได้ ถ้าหากไม่ทำให้เจือจางเพียงพอ

            สารที่สัมผัสกับน้ำแล้วทำให้เกิดก๊าซไวไฟ (Substances whice in contact with water emit flammable gases) หมายถึง สารที่ทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วมีแนวโน้มที่จะเกิดการติดไฟได้เอง หรือทำให้เกิดก๊าซไวไฟในปริมาณที่เป็นอันตราย




       ประเภทที่ 5 สารออกไดส์และสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Oxidizing substances and Organic peroxides) แยกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ

            สารออกซิไดส์ (Oxidizing substances) หมายถึง สารที่ตัวเองของารเองอาจไม่ติดไฟ โดยทั่วไปจะปล่อยออกซิเจนหรือเป็นเหตุหรือช่วยให้วัตถุอื่นเกิดการลุกไหม้

       สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Organic peroxides) สารอินทรีย์ที่มีโครงสร้างออกซิเจน 2 อะตอม -O-O- และอาจถือได้ว่าเป็นสารที่อนุพันธ์ของ Hydrogen peroxide ซึ่งอะตอมของ Hydrogen 1 หรือทั้ง 2 อะตอม ถูกแทนที่ด้วย Oranic radicals สารนี้ไม่เสถียรความร้อนซึ่งอาจเกิดปฏิกิริยาคายความร้อนและเร่งการแตกตัวด้วยตนเอง และอาจมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังต่อไปนี้ แนวโน้มที่จะระเบิดสลายตัว, เผาไหม้อย่างรวดเร็ว, ไวต่อการกระแทกหรือการเสียดสี, ทำปฏิกิริยากับสารอื่นก่อให้เกิดอันตรายได้ และเป็นอันตรายต่อตา

       ประเภทที่ 6 สารพิษและสารติดเชื้อ (Toxic and Infections sustances) แยกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ

            สารพิษ (Toxic sustances) หมายถึง สารที่มีแนวโน้มจะทำให้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บรุนแรง หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากกลืนหรือสูดดม หรือสัมผัสทางผิวหนัง

            สารติดเชื้อ (Infections sustances ) หมายถึงสารที่ทราบว่าหรือคาดว่ามีเชื้อโรคปนอยู่ด้วย เชื้อโรค คือ จุลินทรีย์ (ซึ่งรวมถึง แบคทีเรีย ไวรัส Rickettsia พยาธิ เชื้อรา) หรือจุลินทรีย์ที่เกิดใหม่ หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งรู้กันโดยทั่วไปหรือมีข้อสรุปที่เชื่อถือได้ว่าเป็นเหตุให้เกิดโรคต่อมนุษย์หรือสัตว์  

       ประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี (Radioactive Material) หมายถึง วัสดุที่สามารถแผ่รังสีที่มองไม่เห็น ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย การพิจารณาความเป็นอันตรายให้เป็นไปตามมารตราฐานและข้อกำหนดต่างๆ ด้านการขนส่งสารกัมตรังสีของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างปรหะเทศ (International Atomic Energy Agency หรือ IAEA)

       ประเภทที่ 8 สารกัดกร่อน (Corrosive substances) หมายถึง สารซึ่งโดยปฏิกิริยาเคมีจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตอย่างรุนแรง หรือกรณีของการรั่วจะเกิดความเสียหาย หรือทำลายสิ่งของอื่นหรือยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง หรือเกิดอันตรายอื่นได้ด้วย

       ประเภทที่ 9 วัตถุอันตรายเบ็ดเตล็ด (Misellaneous dangerous substances and articles) หมายถึง สารและสิ่งของที่ในขณะขนส่งมีความเป็นอันตราย ซึ่งไม่จัดอยู่ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 8 และให้รวมถึงสารที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซียส ในสภาพของเหลว หรือมีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 240 องศาเซลเซียส ในสภาพของแข็ง

       รถที่บรรทุกวัตถุอันตรายทั้ง 9 ประเภทนี้ ผู้ประกอบการขนส่งต้องจัดให้มีป้ายที่แสดงตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายติดไว้ด้านท้ายรถและด้านข้างตัวรถทั้ง 2 ด้าน

       ลักษณะการบรรทุกวัตถุอันตรายดังกล่าว ที่ผู้ใช้รถที่ในการขนส่งต้องได้รับใบอนุญาตขับรถชนิดที่ 4 มีดังนี้

       รถบรรทุกวัตถุอันตราย (รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ลักษณะ 4) ที่ถังบรรทุกมีความจุเกินกว่า 1,000 ลิตร

       รถพ่วงและรถกึ่งพ่วง (รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ลักษณะ 6 และลักษณะ 7) ที่ถังที่ใช้ในการบรรทุกเฉพาะวัตถุอันตราย มีความจุเกินกว่า 1,000 ลิตร

       และรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ลักษณะอื่น ที่มีลักษณะการบรรทุกโดยนำไปไช้ในการบรรทุกวัตถุอันตราย ดังนี้

       วัตถุอันตรายประเภทที่ 1 (วัตถุระเบิด) ประเภทที่ 6 (สารพิษและสารติดเชื้อ) และประเภทที่ 7 (วัตถุกัมมันตรังสี)

       วัตถุอันตรายที่เป็นก๊าซหรือก๊าซเหลวบรรจุในภาชนะโดยมีปริมาณรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร หรือมีน้ำหนักรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร

       วัตถุอันตรายที่เป็นของเหลวที่บรรจุในภาชนะ โดยมีปริมาณรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร หรือเป็นของแข็งที่มีน้ำหนักรวมกันเกินกว่า 1,000 กิโลกรัม หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร หรือเกินกว่า 1,000 กิโลกรัม อย่างใดอย่างหนึ่ง

 

ทั้งนี้ ประกาศนี้มิให้ใช้บังคับแก่

       รถที่ใช้ในการบรรทุกเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ที่มีภาชนะบรรจุเครื่องดื่มในแต่ภาชนะมีปริมาตรไม่เกิน 250 ลิตร

       รถที่ใช้ลากจูงที่รถบรรทุกวัตถุอันตรายตามประกาศนี้ ในกรณีที่รถบรรทุกวัตถุอันตรายนั้นไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือเกิดอุบัติเหตุ

       รถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายอื่น นอกจากที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และข้อ 2 ที่ได้รับยกเว้นตามเอกสารคำแนะนำของสหประชาชาติ ว่าด้วยการขนส่งสินค้าอันตราย (UN Recommemdations on the Transport of Dangerous Goods) ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก

 

 





ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสาร รถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 24 เม.ย. 2556 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 
สาระน่ารู้
ข่าวรถมือสอง
เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

ข่าวรถมือสอง
รถเปลี่ยนมือ อย่าลืมเปลี่ยนสิทธิ์ 5 เรื่องควรรู้ เพื่อปลดหนี้อย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
คู่มือดูแลยางรับหน้าฝน: ดูแลยางอย่างไรให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ

ข่าวรถมือสอง
CARS24 แนะนำ 6 รถครอบครัวรุ่นฮิต ผ่อนเริ่มต้น 10,000 บาท

ข่าวรถมือสอง
ประโยชน์ของชุดปะยางฉุกเฉิน

ข่าวรถมือสอง
นิสสัน เทอร์ร่า แชร์เคล็ดลับการเดินทางกับเด็กเล็ก เคล็ดลับการเดินทางที่รับประกันว่าจะทำให้ทั้งครอบครัว

ข่าวรถมือสอง
7เหตุผลที่ลูกค้าเลือกใช้ มิตซูบิชิ ไทรทัน

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเคล็ดลับขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน

ข่าวรถมือสอง
5 ฟีเจอร์ในรถฟอร์ดเอเวอเรสต์ผู้ช่วยของสุดยอดคุณแม่

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดเผย 5 เคล็ด(ไม่)ลับของการขับออฟโรด

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะนำ4เคล็ดลับการรักษาสีรถให้เหมือนใหม่

ข่าวรถมือสอง
ไบค์เกอร์เท่านั้นที่รู้! เปิด 5 เหตุผล ทำไมไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ถึงเป็นพรีเมียมบิ๊กไบค์ ที่ใครๆ ก็อยาก

ข่าวรถมือสอง
ฟอร์ดแนะเทคนิคขับรถทางไกลให้ประหยัดน้ำมัน

ข่าวรถมือสอง
5 วิธีขับรถลุยน้ำอย่างปลอดภัย

ข่าวรถมือสอง
แอร์รถสะอาด สำคัญกว่าที่คิด

   
   
 
   
 
 
 
 
ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด
   Copyright © 2013 :By media ltd.