5 ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศในบ้าน

นิตยสารรถ WEEKLY

 


วันนี้เรามี" ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศได้ " มาแนะนำกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยฟอกอากาศภายในบ้านให้สะอาดสดชื่นแล้วยังสามารถเลือกจัดวางเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว แถมยังกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำ ซึ่งนอกจากจะเป็นปัญหากวนใจแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้งานอีก สำหรับวันนี้เราขอแนะนำต้นไม้ 5 ขนิดที่ปลูกง่าย และหาง่ายอีกด้วย
1. ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)
ว่านหางจระเข้นอกจากจะเป็นพืชสมุนไพรที่นำมาประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อยอดรักษาแผลและโรคต่างๆ แล้ว ต้นว่านหางจระเข้ยังมีความสามารถในการดูดซับสารพิษจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์ซึ่งเป็นสาเหตุของการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ปวดศีรษะ ไปจนถึงโรคหอบหืดได้อีกด้วย เพื่อให้ว่านหางจระเข้เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ควรตั้งไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึงและรดน้ำเป็นประจำ
2. โหระพาไทย (Holy Basil)
โหระพาไทยหรือโหระพาก้านแดงมีคุณสมบัติในการใช้ก๊าซอันตรายจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์เพื่อสังเคราะห์แสงและจะปล่อยก๊าซออกซิเจนคืนกลับมา อีกทั้งกลิ่นของโหระพายังช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย โหระพาเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดมากและต้องรดน้ำทุกวันวันละ 1 ครั้ง เหมาะที่จะปลูกบริเวณระเบียงหรือริมหน้าต่าง
3. พลูด่าง (Money Plant)
พลูด่างเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันมากที่สุดชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ยังสังเกตได้ว่าเรามักจะพบว่าพลูด่างมักจะถูกปลูกในห้องน้ำหรือในสำนักงาน ไม่ใช่เพียงเพราะพลูด่างเติบโตได้ดีในที่แสงน้อยเท่านั้น แต่เพราะพลูด่างสามารถดูดสารพิษจำพวกแอมโมเนียที่มักมีมากในห้องน้ำ หรือสำนักงานที่มีเครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องพิมพ์เขียว ได้ดีอีกด้วย และพลูด่างยังมีความสามารถคายความชื้นออกมามาก ทำให้อากาศไม่แห้งจนเกินไป
4. เขียวหมื่นปี (Chinese Evergreen)
เขียวหมื่นปีเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เป็นไม้ประดับยอดฮิตในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถอยู่ในที่ร่มได้นาน ทนต่ออากาศแห้งได้ ใบมีขนาดใหญ่จึงมีพื้นที่ผิวในการดูดสารพิษมาก โดยมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารพิษจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์ที่อยู่ในกาวและสารเคลือบเฟอร์นิเจอร์
5. เดหลี (Peace Lily)
เดหลีมีลำต้นและใบสีเขียวเข้ม ใบมีขนาดใหญ่ ทำให้เดหลีมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษประเภทฟอร์มัลดีไฮด์ ไซลีน และโทลูอีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสีทาบ้าน กาว และยาเคลือบได้มาก และดอกเดหลียังส่งกลิ่นหอม ช่วยปรับกลิ่นอากาศภายในบ้านได้ เดหลีต้องการแสงแดดเพียงรำไรจึงสามารถปลูกไว้ภายในบ้านได้ และควรรดน้ำให้หน้าดินชุ่มอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่เพิ่งจะมีบ้านหลังใหม่ก็หมดห่วงเรื่องสารพิษไปได้เลย เพราะต้นไม้เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยฟอกอากาศภายในบ้านของคุณให้ปราศจากมลพิษและสารอันตราย หรือท่านใดที่มีบ้านอยู่แล้วก็สามารถนำเทคนิคต้นไม้ฟอกอากาศนี้ไปปรับใช้ได้เช่นกัน ข้อควรระวังคือต้นไม้แต่ละชนิดต้องการแสงแดดและน้ำแตกต่างกันไป เพื่อประสิทธิภาพในการฟอกอากาศควรหมั่นดูแลและเอาใจใส่ต้นไม้ของท่านอยู่เสมอ