มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ปีนี้ครบรอบปีที่ 60 ของการนำเสนอนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ซึ่งวอลโว่นำเสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 1959 นวัตกรรมนี้ได้ถูกแบ่งปันแก่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นเพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์ และป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนในภาพรวม ซึ่งนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดได้ช่วยปกป้องชีวิตของผู้คนมาแล้วมากกว่าล้านคนทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี ค.ศ. 1927 แบรนด์วอลโว่จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัยบนท้องถนน มิใช่จากการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์ของเราเท่านั้น หากเรายังแบ่งปันองค์ความรู้แก่ผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์เสมอมา”
“การแบ่งปันองค์ความรู้คือสิ่งที่วอลโว่ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จะเน้นย้ำทั้งในเรื่องการศึกษาและการนำเสนอชุดกิจกรรมด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน (Road Safety Campaign) ของเรา การให้การศึกษาแก่เด็ก ๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนจะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปกป้องเยาวชนของเราได้ ในขณะที่ชุดกิจกรรมด้านความปลอดภัยจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในวันนี้ได้ทันที”
มร.คริส เวลส์กล่าวเสริมว่า “ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยรายงานผลว่าในปีที่ผ่านมา จังหวัดระยองมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 4,719 ครั้งและมีผู้เสียชีวิตจำนวน 236 คน โดยเป็นอุบัติเหตุจากจักรยานยนต์ 4,660 ครั้ง ซึ่งทำให้224 ครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ส่วนอุบัติเหตุจากรถยนต์มี 59 ครั้งในปีที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน ซึ่งพื้นที่ที่เราเข้าไปจัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนครั้งนี้ ถือเป็นพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของจังหวัดระยอง จึงเป็นเหตุผลที่เรามุ่งมั่นช่วยเหลือชุมชนอย่างเต็มความสามารถ”
“เราเชื่อว่า การให้การศึกษาและมอบอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงป้ายสัญญาณจราจร การจัดทำทางม้าลาย และการมอบหมวกกันน็อกจำนวน 100 ใบแก่ผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์ในชีวิตประจำ จะสามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างได้ผล”
ดร. มีชัย วีระไวทยะ ประธานมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ แสดงความคิดเห็นว่า “ในทุกวัน ผู้คนในชุมชนต้องเสี่ยงชีวิตในการเดินทางมาโรงเรียนหรือที่ทำงาน องค์กรธุรกิจเอกชนที่ประสบความสำเร็จควรมีสำนึกรับผิดชอบในการยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน ผ่านการร่วมมือกับโรงเรียนและชุมชนต่าง ๆ หากเราร่วมแรงร่วมใจกันก็ย่อมสามารถป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนในพื้นที่เสี่ยงได้ โดยสิ่งนี้จำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นและกองทุนที่เป็นรูปธรรม สำหรับงานในครั้งนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนแก่โรงเรียนและชุมชนอีกครั้งผ่านโครงการที่โรงเรียนวัดเกาะ ด้วยการสนับสนุนร่วมกับการให้การศึกษาและกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัย วอลโว่ได้แสดงถึงเจตจำนงเชิงปฏิบัติที่จริงจังว่าต้องการช่วยเหลือผู้คนและชุมชนนประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งเด็กนักเรียนและทีมงานของเราต่างเฝ้ารอที่จะได้ต้อนรับทีมอาสาสมัครจากวอลโว่ซึ่งมีทั้งคณะผู้บริหาร พนักงาน ผู้จำหน่าย และลูกค้าของวอลโว่ ตลอดจนสื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่ด้วยความยินดียิ่ง ผมหวังอย่างแท้จริงว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของเราจะดำเนินรอยตามแบบอย่างอันสร้างสรรค์นี้ และผสานการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนในลักษณะนี้เข้ากับการดำเนินธุรกิจของพวกเขาในอนาคต”
ความมุ่งมั่นของวอลโว่ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในเดือนกรกฎาคมเมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อคณะผู้บริหาร พนักงาน ผู้จำหน่าย ลูกค้า สื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่รวมกว่า 200 คน ร่วมมือกันเก็บขยะพลาสติกและขยะอื่น ๆ บนชายหาดบางแสน เทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทำความสะอาดชายหาดของวอลโว่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และลดมลภาวะจากขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลก โดยพนักงาน วอลโว่ คาร์ และทีมงานผู้จำหน่ายมากกว่า 850 คนใน 16 ประเทศต่างพร้อมใจวางอุปกรณ์การทำงานและหันมาช่วยเก็บขยะ เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการทะเลสะอาดขององค์การสหประชาชาติ
การให้ความสำคัญกับการปกป้องและใส่ใจต่อผู้คน ทำให้วอลโว่ได้รับการยกย่องเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจ อาทิ การออกแบบและการใช้งานเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดเป็นรายแรก การออกแบบเบาะนั่งสำหรับเด็ก และโครงการ E.V.A. ซึ่งมอบความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์ทุกเพศทุกวัยอย่างเท่าเทียม ซึ่งก่อให้เกิดนวัตกรรมความปลอดภัยมากมาย อาทิ ระบบปกป้องแรงกระแทกจากด้านข้าง SIPS (Side Impact Protection System) ซึ่งได้ช่วยปกป้องชีวิตและป้องกันการบาดเจ็บให้แก่ผู้คนมาแล้วนับล้านคนทั่วโลก นวัตกรรมเหล่านี้คือผลลัพธ์จากความพยายามยกระดับความปลอดภัยของวอลโว่ ซึ่งเป็นแนวทางเชิงระบบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสถานการณ์ในความเป็นจริงและถือว่ามีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมรถยนต์