จำนวนผู้เข้าชม : 270 ครั้ง
End Page
 
 
เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า: สุดยอดรถยนต์เอสยูวีอเนกประสงค์

เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า: สุดยอดรถยนต์เอสยูวีอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นที่สุดแห่งความเร็ว พละกำลัง ความหรูหรา และความพิเศษเหนือระดับ ที่สุดในโลก  เบนท์ลีย์ที่สามารถผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ต สมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด และการใช้งานในทุกๆวันได้อย่างลงตัว นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้าหน้า – อุปกรณ์ต่างๆอันล้าสมัยประกอบกับความหรูหราซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการออกแบบตัวรถ ออกแบบทางวิศวกรรมและถูกผลิตในเมืองครูว์ (Crewe) สหราชอาณาจักร เอสยูวีรุ่นใหม่สามารถน าพาความหรูหราของเบนท์ลี่ย์ไปยังสถานที่ใหม่ๆได้อย่างไร้ขีดกำจัด ออกแบบราวกับงานแกะสลักที่บ่งบอกถึงความสง่างาม ไร้กาลเวลา มีความสมดุลย์ระหว่างความปราดเปรียวและบึกบึน ทีมงานของเบนท์ลีย์ผสมผสานทักษะงานฝีมือชั้นเยี่ยมเข้ากับเทคนิคในการผลิตและวัสดุอุปกรณ์อันทันสมัย รายละเอียดอันสลับซับซ้อนและประณีตศิลป์ในงานไม้ โลหะ และหนังแท้ สร้างให้ภายในห้องโดยสารมีความทันสมัยและหรูหรา สมรรถนะสูงตามแบบฉบับของเบนท์ลีย์ ในทุกสภาพอากาศและภูมิประเทศ แชสซีย์ใหม่ที่ล้าหน้าเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายไร้ขีดจำกัด เครื่องยนต์ W12 สูบรุ่นใหม่ซึ่งถูกผลิตที่ครูว์สามารถถ่ายทอดกำลังและแรงบิดเหนือคู่แข่ง พร้อมด้วยประสิทธิภาพการทำงานอันดีเยี่ยมและนุ่มนวล ซึ่งนับได้ว่าเป็นรถยนต์เอสยูวีอเนกประสงค์ที่ทรงพลังและเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล รุ่นเครื่องยนต์กึ่งไฟฟ้า Plug-in Hybrid และอุปกรณ์พิเศษเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง จะมีการน าเสนอในโอกาสต่อไป รายละเอียดส าหรับสื่อมวลชนพร้อมทั้งวีดีโอ 360° รายละเอียดทางเทคนิคและการสัมภาษณ์ สามารถติดตามได้ที่ www.bentleymedia.com เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้แถลงการเปิดตัวรายละเอียดรถเบนเทย์ก้า ผู้น ารถยนต์รุ่นใหม่สุดยอดยนตรกรรมในเซกเมนท์ เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะอันดีเยี่ยมและเหมาสมกับการใช้งานในทุกๆ วันด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ W12 ใหม่ล่าสุด ทำให้เบนเทย์ก้าเป็นรถเอสยูวีอเนกประสงค์ ที่เร็วที่สุด พละกำลังสูงที่สุด หรูหราที่สุด และพิเศษที่สุดในโลก รถยนต์รุ่นนี้สามารถมอบประสบการณ์ในการขับขี่ในแบบฉบับของเบนท์ลีย์แท้ๆและยังอุดมไปด้วยนวัตกรรม อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างครบครัน เบนเทย์ก้าถูกออกแบบตัวรถ ออกแบบทางวิศวกรรมและการผลิตด้วยมือที่โรงงานในเมืองครูว์ รถยนต์ถูกรังสรรค์ราวกับงานแกะสลัก ที่บ่งบอกถึงความสง่างาม ไร้กาลเวลา มีความสมดุลย์ระหว่างความปราดเปรียวและมั่นคง เอกลักษณ์อันเป็น DNA ของเบนท์ลีย์สามารถสะท้อนได้จากไฟหน้า LED ทรงกลมสี่ดวงพร้อมกระจังหน้าลายรังผึ้ง และเส้นสายข้างตัวรถที่แสดงถึงพละกำลังคล้ายมัดกล้าม เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า นำเสนอภายในห้องโดยสารที่ประณีตที่สุดในโลก




รายละเอียดในชิ้นงานโลหะ งานไม้ และ หนังแท้พร้อมทั้งการเชื่อมต่ออย่างพิถีพิถันของเนื้องานสามารถบ่งบอก อัตลักษณ์ ความหรูหราตามแบบฉบับของผู้ดีอังกฤษ ความสมบูรณ์แบบดังกล่าวสามารถทำได้ส าเร็จด้วยสุดยอดทักษะและความสามารถของทีมงานเบนท์ลีย์ที่โรงงานในเมืองครูว์ เครื่องยนต์ W12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เป็นหัวใจของเบนเทย์ก้าใหม่ เครื่องยนต์ 12 สูบขนาดใหญ่มีการทำงานที่ผสมผสานประสิทธิภาพและความประณีต ถ่ายทอดพละกำลังและแรงบิดมหาศาลอย่างนุ่มนวล ด้วยกำลัง 608 แรงม้า (600 bhp / 447 กิโลวัตต์) และแรงบิด 900 นิวตันเมตร (663 ฟุตปอนด์) ทำอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 4.0 วินาที (0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.1 วินาที) และความเร็วสูงสุดที่ 187 ไมล์ต่อชั่วโมง (301 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ทำให้ เบนเทย์ก้า เป็นรถยนต์เอสยูวีที่มีพละกำลังมากที่สุดและเร็วที่สุดในโลก นายวูลฟ์แกงค์ ดูร์ไฮม์เมอร์ (Wolfgang Dürheimer) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “เบนเทย์ก้า นับเป็นเบนท์ลีย์แท้ๆในหมู่รถยนต์เอสยูวี รถยนต์รุ่นนี้จะกำหนดนิยามใหม่ของความหรูหราในตลาดรถยนต์เอสยูวีและยังน าเสนอประสบการณ์ความเป็นเบนท์ลีย์ในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยการผสมผสานทั้งด้านตัวรถที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ความสามารถในการขับขี่ไปได้ทุกที่ และเทคโนโลยีอันล้าสมัย ด้วยรถยนต์ที่มีคุณลักษณะพิเศษจำเพาะนี้ จะทำให้เบนท์ลีย์ของเราก้าวไปสู่การเจริญเติบโตอันแข็งแกร่งและความส าเร็จทางด้านยอดขาย เบนเทย์ก้าจะเป็นก้าวต่อไปในการน าพาเบนท์ลีย์ไปสู่อนาคตอันเข้มแข็ง” เบนเทย์ก้า จะเปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในมหกรรมแสดงรถยนต์แฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์(IAA Frankfurt Show) รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เบยเทย์ก้า รวมถึงวิดีโอบทสัมภาษณ์ทีมผู้ออกแบบและพัฒนา สามารถติดตามได้ที่ www.bentleymedia.com. นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้าสมัย ระบบช่วยเหลือผู้ขับในการขับขี่และระบบสาระบันเทิงได้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ซึ่งทำให้เบนเทย์ก้า เป็นรถยนต์เอสยูวีที่มีนวัตกรรมอันทันสมัยและเชื่อมโยงกับผู้ขับขี่ได้ดีเยี่ยม การขับขี่ทั้งบนถนนและออฟโรดของเบนเทย์ก้าสามารถปรับแต่งการทำงานได้จากระบบการปรับการขับขี่(Drive Dynamics Mode) และอุปกรณ์เสริมในการปรับแต่งการขับขี่แบบออฟโรด(Responsive Off-Road Setting) ระบบดังกล่าวสามารถปรับตั้งการทำงานได้ถึง 8 ระดับโดยผู้ขับขี่สามารถปรับได้อย่างง่ายดายโดยการหมุนปุ่มเพื่อเลือกการขับขี่ในสภาพถนนหรือพื้นผิวในทุกสถานการณ์ ระบบนี้ยังได้รับการสนับสนุนการทำงานจากระบบ Bentley Dynamic Ride (ระบบป้องกันการโคลงตัวของตัวรถด้วยไฟฟ้า 48V) และระบบพวงมาลัยไฟฟ้า(Electric Power-Assisted Steering -EPAS). ระบบปรับการขับขี่แบบออฟโรด (Responsive Off-Road Setting) จะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกการปรับแต่งรถยนต์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวออฟโรดที่หลากหลายได้ โดยจะแสดงผลผ่านหน้าจอ Driver Information Panel เพื่อให้ทราบถึงระดับความเรียบของพื้น การหมุนของล้อ องศาของพวงมาลัย ความสูงและทิศทางในการขับขี่





ระบบตั้งความเร็วปรับระดับความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control -ACC) ร่วมด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในสภาพรถติด (Stop & Go), ระบบคาดการณ์เพื่อการปรับความเร็วล่วงหน้า (Predictive ACC) และระบบช่วยเหลือในการจราจร (Traffic Assist) จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถที่จะกำหนดระยะห่างกับรถยนต์คันข้างหน้า ระบบคาดการณ์เพื่อการปรับความเร็ว ล่วงหน้า (Predictive ACC) ทำงานโดยใช้ข้อมูลจากระบบน าทาง, เซนเซอร์ และกล้องเพื่อคาดการณ์เกี่ยวกับโค้งถนน, เขตเมือง และเขตจำกัดความเร็ว เพื่อน ามาปรับความเร็วของรถยนต์ได้อย่างสะดวกสบายและช่วยเพิ่มการประหยัดน้ามัน
ในการขับขี่ในเมือง เบนเทย์ก้าติดตั้งระบบช่วยเหลือมากมายเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการใช้รถในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ระบบแสดงผลป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition) ซึ่งจะสามารถตรวจจับป้ายจราจรต่างๆและแสดงผลให้ผู้ขับขี่ทราบ; ระบบตรวจจับวัตถุผ่านท้ายรถ (Rear Crossing Traffic Warning), ซึ่งใช้เรดาห์ในการตรวจสอบวัตถุที่ผ่านท้ายรถในขณะที่กำลังถอยรถออกจากที่จอด และระบบกล้องรอบคัน (Top View) ซึ่งจะใช้กล้องสี่ตัวรอบรถยนต์เพื่อแสดงภาพรถยนต์รอบคันจากมุมบน เบนเทย์ก้า ยังสามารถติดตั้งระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Park Assist) ซึ่งจะช่วยแนะน าที่จอดรถที่เหมาะสม (ทั้งจอดขนานและจอดเข้าช่องจอด) และหมุนพวงมาลัยอัตโนมัติเพื่อเข้าจอดในช่องจอดรถที่แคบและยากในการจอดนวัตกรรมใหม่อื่นๆของเบนเทย์ก้าประกอบด้วยระบบกล้องอัตโนมัติตอนกลางคืน (Electronic Night Vision) ซึ่งใช้รังสีอินฟราเรดในการตรวจจับวัตถุที่ขวางอยู่ด้านหน้า, และระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า(Head-Up Display) ซึ่งสามารถลดการละสายตาจากถนนของผู้ขับขี่เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น เบนเทย์ก้าถูกติดตั้งระบบสาระบันเทิงแบบจอสัมผัสขนาด 8” พร้อมด้วยระบบน าทางอันยอดเยี่ยม, หน่วยความจำขนาด 60GB, และยังสามารถเลือกภาษาได้มากกว่า 30 ภาษา ผู้โดยสารด้านหลังได้รับประโยชน์จากระบบสาระบันเทิงแบบแท็บเบล็ต(Bentley Entertainment Tablet) ซึ่งประกอบไปด้วยแท็บเบล็ตที่เคลื่อนย้ายได้ขนาด 10.2” ระบบปฏิบัติการ Android ระบบ 4G พร้อม WiFi และ Bluetooth ในการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตอย่างไร้รอยต่อ ลูกค้าสามารถเลือกระบบเครื่องเสียงของเบนเทย์ก้าได้สามรูปแบบ: ระบบเครื่องเสียงมาตรฐาน(Bentley Standard Audio), ระบบเครื่องเสียงเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์(Bentley Signature Audio) และระบบเครื่องเสียงพิเศษจากNaim (Naim for Bentley Premium Audio) โดยเครื่องเสียงชุดหลังนี้นับได้ว่าเป็นเครื่องเสียงที่มีพละกำลังสูงสุดในรถระดับเดียวกันด้วยกำลังขับขนาด1,950 วัตต์ เชื่อมต่อกับล าโพง 18 ตัวและล าโพงเสียงแหลมพิเศษ super-tweeters ส าหรับสร้างสรรค์รายละเอียดของเสียงในช่วงคลื่นความถี่ที่สูงที่สุด รูปทรงประดุจงานแกะสลัก, เส้นสายอันคมกริบ, และความสง่างาม ภูมิฐาน โค้งซุ้มล้อ, แก้มหน้าและฝากระโปรงหน้าของเบนเทย์ก้า แสดงออกถึงสมดุลยภาพระหว่างความสปอร์ตและความบึกบึนตามแบบฉบับของรถยนต์เอสยูวี เส้นสายข้างตัวถังอันคมกริบและมัดกล้ามบริเวณด้านท้ายแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งจากมุมมองด้านข้าง และชิ้นส่วนนี้ยังนับเป็นชิ้นงานอลูมิเนียมปั๊มขึ้นรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์อีกด้วย





เครื่องหมายการค้าของเบนท์ลีย์ยังคงพบได้ในรถยนต์คันนี้ กล่าวคือกระจังหน้าขนาดใหญ่ลายรังผึ้งพร้อมตัวอักษร B ติดปีกซึ่งสามารถสะท้อนถึงความทันสมัย กระฉับกระเฉง สง่าสงามของ เบนเทย์ก้า กระจังหน้าถูกขนาบด้วยไฟหน้า LED ทรงกลมสี่ดวง ดวงไฟหน้าถูกฝังอยู่ในแก้มหน้า ซึ่งขึ้นรูปขึ้นมาเป็นชิ้นเดียวแบบไร้รอยต่อนวัตกรรมการออกแบบอันชาญฉลาด อาทิเช่น ที่ฉีดน้าล้างไฟหน้าที่ถูกฝังเป็นชิ้นเดียวกับไฟหน้าคู่นอก บ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อตอกย้าความสามารถในการไปได้ทุกที่ของเบนเทย์ก้า ทีมงานออกแบบของเบนท์ลีย์ได้ติดตั้งแผ่นกันกระแทกที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ อยู่ที่ส่วนล่างของกันชนหน้า ใต้ช่องระบายอากาศรูปปีกนก ในส่วนท้ายรถ ภายในของไฟท้ายจะมีกราฟิกเรืองแสงเป็นรูปตัวอักษร B เพื่อที่จะบ่งบอกความเป็นเบนเทย์ก้าได้อย่างชัดเจนในยามค่าคืน การผสมผสานระหว่างการออกแบบอันล้าสมัย นวัตกรรมทางวิศวกรรม และเทคโนโลยีในการผลิตชั้นยอดซึ่งรวมถึงการใช้วัสดุอลูมิเนียมน้าหนักเบา ทำให้น้าหนักตัวถังของเบนเทย์ก้าลดลงไปกว่า 236 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับการผลิตโดยใช้ตัวถังรูปแบบเดิม หลังคากระจกพาโนรามิคเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในเบนเทย์ก้าทุกคัน พื้นที่กระจกมีมากถึงเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หลังคารวมทั้งหมด กระจกขนาด 1.35 ตารางเมตรแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหน้าของกระจกสามารถกระดกและเลื่อนได้ พื้นที่กระจกสามารถปิดบังแสงได้จากแผงกันแดดไฟฟ้าครอบคลุมทั้งบาน ด้านข้างของหลังคากระจกทั้งสองข้างเป็นราวหลังคาอลูมิเนียมซึ่งชิ้นงานมีการตกแต่งสองส่วน คือฐานทำสีชิ้นงานเป็นสีด าเงา ส่วนด้านบนเป็นสีเงินเงา ล้ออัลลอยใหม่ของเบนเทย์ก้าก็มีให้เลือกได้ตั้งแต่ล้อขนาด 20” ไปจนถึง 22” ห้องโดยสารที่ประณีตที่สุด รังสรรค์ด้วยมือที่บ้านของเบนท์ลีย์ในเมืองครูว์ เมื่อก้าวเข้าไปในเบนเทย์ก้า ท่านจะได้สัมผัสถึงความประณีตที่เป็นที่สุดในอุตสาหรรมรถยนต์ของโลกด้วยงานไม้และหนังแท้ที่บรรจงประดิษฐ์ด้วยมือด้วยความละเอียด เพื่อน ามาซึ่งความสมบูรณ์แบบ ความใส่ใจในทุกรายละเอียดของโลหะ ไม้และหนังแท้ นับเป็นอัตลักษณ์ของความหรูหราตามแบบฉบับอังกฤษ ซึ่งสิ่งดังกล่าวจะทำให้ส าเร็จได้ด้วยทักษะอันยอดเยี่ยมของทีมงานที่ครูว์ ที่นั่งผู้ขับขี่ของเบนเทย์ก้า สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในส่วนของความหรูหราและรายละเอียดของรอยต่อระหว่างชิ้นงานไม้และโลหะ แผงคอนโซลน าเอาเอกลักษณ์รูปปีกของเบนท์ลีย์มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบพร้อมด้วยการตกแต่งและผิวสัมผัสที่สวยงามพาดผ่านจากประตูหนึ่งสู่ประตูหนึ่ง ทั้งส่วนด้านบนของแผงหน้าปัด ด้านล่างของคอนโซลกลาง ไล่ไปจนถึงฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าและที่วางเท้า แผ่นไม้ที่ได้รับการคัดเลือกอย่างประณีตถูกน ามารังสรรค์เป็นพื้นผิวที่ดูงดงามและสง่างามทั่วทั้งห้องโดยสาร ทุกๆชิ้นงานจาก 15 ชิ้นงานได้ผ่านการประดิษฐ์มาจากช่างฝีมือเยี่ยมของเบนท์ลีย์ซึ่งแผ่นไม้สามารถเลือกสรรจาก 7 ชนิด และน ามาตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด. โลหะที่ผ่านการขัดเงาและประดิษฐ์ด้วยมือถูกน ามาประดับลงบนแผงหน้าปัด คอนโซลกลางและประตู เอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์ยังสามารถพบได้ทั้งในปุ่มปรับรูปแบบการขับขี่ หัวเกียร์ ปุ่มดึงต่างๆที่แสดงออกถึงรายละเอียดและความประณีตอย่างสูง เบาะนั่งด้านหน้าอันหรูหราถูกประดิษฐ์ด้วยมือในครูว์ สามารถปรับได้ 22 ทิศทางซึ่งรวมถึงการปรับการรองรับและ
การหนุนหลังช่วยให้ความสะดวกสบายและโอบอุ้มผู้ขับขี่ในทุกสถานการณ์




ความรู้สึกนุ่มสบายเช่นนี้ยังถูกเสริมเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบนวด 6 โปรแกรม, ระบบอุ่นเบาะและระบายอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเบาะแบบสี่ที่นั่งหรือห้าที่นั่ง เบาะหนังแท้ของเบนเทย์ก้าสามารถเลือกอุปกรณ์ตกแต่งรอยเย็บของเบาะนั่งแบบสีแตกต่างจากตัวเบาะ (contrast stitching) และเดินลาย เบาะรูปเพชร (quilted diamond design)ตรงเบาะบริเวณหัวใหล่และบั้นเอว เพื่อสะท้อนรูปแบบของการตัดเย็บเสื้อหนังล่าสัตว์ของชาวอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญของเบนท์ลีย์จะทำการเลือกหนังวัวคุณภาพเยี่ยม โดยหนังวัวทั้งหมดมีแหล่งกำเนิดมาจากทวีปยุโรปในเขตอาการหนาวเย็น ผ่านการตากแดดตามธรรมชาติและไม่มีการพิมพ์ลาย ลูกค้าสามารถเลือกได้ 15 สี และการทำหนังสีสลับได้ 3 รูปแบบ และสีเดียวอีก 1 รูปแบบ รูปแบบเบาะที่นั่งแบบสี่ที่นั่งบ่งบอกถึงการออกแบบ ความสะดวกสบาย และความหรูหราที่สุดยอด เบาะนั่งแถวหลังแบบแยก 2 ที่นั่งสามารถปรับได้ 18 ทิศทาง พร้อมทั้งระบบนวด ระบบระบายอากาศ และที่พักเท้า บริเวณคอนโซลด้านหลังหุ้มหนังแท้พร้อมลายไม้ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่นๆเช่น ที่วางแก้วน้า ที่เก็บของที่เพียงพอ และช่อง USB ที่สามารถชาร์จไฟได้ ความรู้สึกโปร่งสบายในห้องโดยสารยังถูกเสริมด้วยแผ่นปิดด้านหลังเพื่อแบ่งพื้นที่ภายในห้องโดยสารกับที่เก็บสัมภาระออกจากกัน ห้องโดยสารด้านหลังยังสามารถประดับลายเพชรบนเบาะและยังสามารถติดตั้งระบบเก็บอุปกรณ์สกีช่วยให้เกิดมาตรฐานใหม่ในห้องโดยสารด้านหลังของกลุ่มรถยนต์เอสยูวี หลังคาพาโนรามิคที่มีความยาวเต็มพร้อมด้วยวัสดุซับเสียงยังสามารถทำให้แสงแดดร าไรตกลงบนพื้นผิวของวัสดุในห้องโดยสารสะท้อนให้เห็นรายละเอียดของชิ้นงานได้เป็นอย่างดี เมื่อเปิดท้ายรถโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส นอกจากจะได้พบกับพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่แล้ว เราจะได้พบกับอุปกรณ์พิเศษของเบนท์ลีย์อีกหนึ่งสิ่งคือ เบาะในพื้นที่สัมภาระที่พับเก็บได้ ที่ออกแบบมาส าหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้งหรือชื่นชมธรรมชาติ นวัตกรรมเบาะพับได้หุ้มหนังแท้ถูกประดิษฐ์ได้สอดคล้องกับเบาะที่นั่งในห้องโดยสารและยังผสมผสานเข้ากับเบาะนั่งหลังของรถได้อย่างไร้รอยต่อ อันเป็นสัญลักษณ์อีกสิ่งหนึ่งของการใส่ใจในทุกรายละเอียด เครื่องยนต์ W12 ใหม่ – ประสิทธิภาพพร้อมพละกำลังและแรงบิดมหาศาล หัวใจของเบนเทย์ก้าคือเครื่องยนต์ใหม่ที่ผลิตจากโรงงานในเมืองครูว์ แบบ W12 TSI เครื่องยนต์ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่นี้ ผนวกเอาประสิทธิภาพและความนุ่มนวลเข้ากับพละกำลังและแรงบิดมหาศาล เครื่องยนต์นี้นับเป็นเครื่องยนต์ 12 สูบที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก สามารถผลิตแรงม้าได้ถึง 608 แรงม้า (600 bhp / 447 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 900 นิวตันเมตร (663 ฟุตปอนด์) ที่รอบความเร็ว 1,350 รอบต่อนาที จนถึง 4,500 รอบต่อนาที พละกำลังของเครื่องอันมหาศาลนี้ส่งผลให้ตัวเลขด้านสมรรถนะออกมาน่าประทับใจด้วยเช่นกัน เบนเทย์ก้าสามารถออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.0 วินาที (0-100 กม./ชม.ที่ 4.1 วินาที) และเร่งต่อไปจนความเร็วสูงสุดที่ 187 ไมล์ต่อชั่วโมง (301 กม./ชม.)



เครื่องยนต์ W12 ใหม่นี้ใช้ระบบหัวฉีดสองรูปแบบทั้งระบบฉีดตรงและระบบฉีดไม่ตรง(direct and indirect fuel injection) โดยการปรับเปลี่ยนการทำงานของหัวฉีดเป็นไปอย่างอัตโนมัติไร้รอยต่อ เพื่อให้เกิดทั้งความนุ่มนวลที่สูงที่สุด มลพิษที่น้อยลง และพละกำลังแรงบิดที่มากที่สุด ตัวเลขในด้านประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เป็นที่น่าประทับใจด้วยอัตราการปล่อย CO2 ที่ 296 กรัม/กม. ซึ่งอัตราดังกล่าวสามารถบรรลุได้ด้วยระบบขนาดความจุเครื่องยนต์แบบแปรผัน(Variable Displacement system) ซึ่งทำงานโดยการปิดการทำงานของเครื่องยนต์ครึ่งหนึ่งภายใต้สถานการณ์ที่กำหนด ระบบวาล์วไอดี และไอเสีย, หัวฉีด, และระบบจุดระเบิดจะหยุดการทำงานในสูบที่กำหนดทำให้เครื่องยนต์ทำงานเพียง 6 สูบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ถูกจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบส่งกำลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรงขึ้นเพื่อตอบสนองต่อแรงบิดอันมหาศาลในการขับขี่ออฟโรด ระบบเทคโนโลยีดับเครื่องเมื่อรถหยุด (Start-Stop) ของเบนเทย์ก้าได้รับการพัฒนาให้เหนือขึ้นไปอีกซึ่งรถยนต์สามารถแล่นไปได้โดยซึ่งเครื่องยนต์จะถูกพักการทำงานไม่เฉพาะเวลาที่รถหยุดแต่จะหยุดการทำงานเมื่อรถ ‘ใกล้จะหยุด’ โดยไม่ต้องหยุดสนิท ในเกียร์ที่ 5 ถึง 8 เมื่อผู้ขับขี่ถอนคันเร่ง (อาทิเช่นขับอยู่บนทางด่วน) รถยนต์จะเปิดการทำงาน ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ (torque converter) ลดการทำงานของเครื่องยนต์ให้ไปอยู่ในรอบเดินเบาและรถยนต์ก็จะสามารถ “แล่น” ต่อไปได้ เมื่อคันเร่งถูกใช้งานอีกครั้งหรือรถยนต์กำลังเข้าสู่ทางลาดลงและอัตราความเร็วของรถเพิ่มขึ้น ระบบส่งกำลังก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง เครื่องยนต์ W12 ใหม่มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิม เบนเทย์ก้าจะมีเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์ไฮบริดในอนาคตต่อไป ความหรูหราพร้อมกับความสามารถในการเดินทางไปได้ทุกที่ ไม่มีรถยนต์คันไหนที่จะผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสามารถในการเดินทางไปได้ทุกที่เหมือนเบนเทย์ก้า กระบวนการพัฒนารถยนต์เบนเทย์ก้านับได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ยากที่สุดในประวิติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ ครอบคลุมการทดสอบใน 5 ทวีป จากฝุ่นและกรวดในแอฟริกาใต้ ไปยังภูเขาทะเลทรายในดูไบ ต่อไปยังทุ่งโคลนในชีไชร์ (Cheshire) และจากอากาศ -30°C ในขั้วโลกเหนือ ไปยังอากาศร้อน 50°C ในทะเลทราย เบนเทย์ก้าได้แสดงสมรรถนะให้ประจักษ์ในทุกๆพื้นผิวและสภาพอากาศ เบนเทย์ก้ายังได้ไปโลดแล่นในสนามส่วนเหนือของเนอร์เบิร์กริง (Nürburgring Nordschleife circuit) มากว่า 400 รอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแชสซีย์และการปรับแต่งการบังคับควบคุมต่างๆรวมถึง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว เอกลักษณ์ของสนามส่วนเหนือนี้คือมีการเปลี่ยนระดับความสูงอันหลากหลาย การเกาะพื้นผิวของถนนหลากหลายรูปแบบ การเข้าโค้งด้วยความเร็วที่หลากหลาย ทำให้สนามนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการพัฒนารถยนต์เอสยูวีที่เร็วที่สุดและมีพละกำลังสูงสุดในโลก เบนเทย์ก้ายังได้แนะน าระบบ Bentley Dynamic Ride – ซึ่งนับเป็นระบบป้องกันการโคลงตัวของตัวรถด้วยไฟฟ้า 48V ครั้งแรกของโลก ระบบนี้ได้รับการพัฒนาต่อมาจากรถขนาดใหญ่ที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูง ระบบนี้จะช่วยจะปรับการทำงานของ
รถให้สัมพันธ์กับแรงกระทำทางด้านข้าง เพื่อให้ล้อสัมผัสกับพื้นให้ได้มากที่สุดในเวลาเข้าโค้ง อันจะนำมาซึ่งเสถียรสภาพของห้องโดยสาร ความนุ่มนวลสะดวกสบายและการบังคับควบคุมที่ยอดเยี่ยม ขณะที่เหล็กกันโคลงปกติจะช่วยในการควบคุมการโคลงตัวแต่ความนุ่มนวลจะถูกลดลง ระบบของเบนท์ลีย์ที่สามารถปรับและตอบสนองกับสถานการณ์ต่างๆได้จะช่วยให้เบนเทย์ก้าสามารถน าเสนอความคล่องตัวและความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารทุกท่านในทุกช่วงเวลา การใช้ระบบไฟ 48V ทำให้การทำงานมีความเงียบ ตอบสนองฉับไวและมีพละกำลังเพียงพอ ในการรองรับกับถนนในทุกพื้นผิว เบนเทย์ก้าได้รับการติดตั้งระบบพวงมาลัยผ่อนแรงไฟฟ้า (Electric Power-Assisted Steering -EPAS) ระบบใหม่นี้ช่วยเพิ่มการตอบสนองให้กับผู้ขับขี่ แต่ลดการสั่นสะเทือนของพวงมาลัยมาสู่ผู้ขับขี่เมื่อขับทั้งบนถนนและออฟโรด ระบบ EPAS ยังประกอบไปด้วยอัตราทดพวงมาลัยแปรผันซึ่งทำให้การหมุนพวงมาลัยทำได้อย่างเบามือและรวดเร็วในขณะที่รถเคลื่อนตัวช้าๆและจะลดความไวของการตอบสนองลงเพื่อทำให้รถมีเสถียรภาพที่ดีเยี่ยมในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง เบนเทย์ก้าน าเสนอความนุ่มนวลในการขับขี่ระดับเยี่ยมยอด การบังคับควบคุมที่ให้ความรู้สึกดีเยี่ยม ซึ่งมีผลมาจากแชสซีย์ที่ดีและระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control ESC) นอกจากนั้นเบนเทย์ก้ายังได้รับการติดตั้งระบบควบคุมการเกาะถนน (Traction Control TCS) และระบบควบคุมการขับลงเขา (Hill Descent Control HDC) ระบบ HDC จะทำการค านวณความเร็วของรถและความลาดชันและปรับความเร็วอัตโนมัติซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาธิไปกับการหักหลบสิ่งกีดขวางให้ได้มากที่สุด ระบบนี้สามารถตั้งความเร็วล่วงหน้าได้ตั้งแต่ความเร็วระหว่าง 2 ถึง 30 กม./ชม. และทำงานบนความลาดชันที่มากกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับเบนท์ลีย์ทุกรุ่น เบนเทย์ก้ามาพร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับ ผู้ขับขี่เบนเทย์ก้าสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ: High 2 , High 1 , Normal และ Low ในรูปแบบ High 2 ผู้ขับขี่สามารถเลือกเองได้เพื่อใช้งานในสภาพถนนที่ทุรกันดาร ลูกค้ายังสามารถที่จะเลือกปรับลดระดับท้ายรถเพื่อให้ง่ายต่อการยกของขึ้นและการติดตั้งหัวลาก โดยกดปุ่มที่อยู่ในท้ายรถ



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : รถweekly  
 ผู้บันทึก :
date : [ 26 มิ.ย. 2560 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc