3.Suzuki Swift 1.2 GA CVT ราคา 478,000 บาท
ซูซูกิ สวิฟท์ ยังถือว่าน่าเล่นอยู่ โดยในรุ่น GA CVT มาพร้อมล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ กระจกมองข้างและมือเปิดประตูสีดำ ไพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย จัดเรียงสัมภาระขนาดใหญ่ได้หลากหลายรูปทรง เบาะหลังพับเก็บได้ เพิ่มพื้นที่ราบกว้างได้อีก พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และการจัดวางเพื่อให้ใช้งานง่ายขณะขับขี่ ทั้งปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย อุปกรณ์รองรับ USB ระบบเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมี ระบบ Keyless push start และ Keyless Entry เพิ่มความสะดวกสบายในการ ขึ้นลงและสตาร์ทรถ
เครื่องยนต์ใหม่ 1.25 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบวาล์วแปรผันทั้งไอดีและไอเสีย ให้จังหวะการทำงานที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพการขับขี่ จึงช่วยประหยัดน้ำมันและปล่อยมลพิษต่ำ ไม่ว่าจะติดเครื่องทิ้งไว้หรือเร่งเครื่องเต็มที่ เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ด้วยช่วงล่างที่แกร่ง พร้อมฐานล้อคู่หลังกว้างกว่าคู่หน้า เสริมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน เหล็กกันโคลงที่มีความทนทานต่อแรงบิดมากขึ้น พร้อมระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริง ที่มีน้ำหนักเบาลงแต่แกร่งขึ้น ช่วยลดการโคลงของตัวรถ
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ทั้งสี่ล้อ ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน ระบบกระจายแรงเบรก EBD ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ ช่วยกระจายแรงเบรกแต่ละล้ออย่างสมดุล เสริมความสามารถในการเบรกให้ดีขึ้น
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดถ้า Ignition Key ไม่ตรงกับ ID Code ของรถ ระบบสัญญาณกันขโมย จะส่งไฟสัญญาณกระพริบ และแตรรถจะดังทันที ถ้าเปิดประตูหรือทำงานอื่นๆ นอกเหนือระบบ โดยไม่ผ่านการกดสวิตช์ที่รีโมท หรือไม่ผ่านระบบ Keyless Entry พร้อมเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย SRS ตรงที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า

4.Toyota Yaris 1.2J ECO ราคา 469,000 บาท
Toyota Yaris ราคาไม่ถึง 5 แสนบาท ก็สามารถเป็นเจ้าของ ได้ ภายนอก ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟหลังแบบ LED สปอยเลอร์หลังคา คิ้วกันกระแทกด้านข้าง กระจังหน้า สีดำ คิ้วฝากระโปรงท้าย สีดำ ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง กระจกมองข้าง สีดำ มือจับประตูด้านนอก สีดำล้อกระทะ 14 นิ้ว / ยาง 175 / 65 R14
ภายใน แผงคอนโซลหน้า สี Dark Silver วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า สีดำ วัสดุเบาะนั่ง ผ้าสีดำ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับสูง-ต่ำได้ หัวเกียร์ ยูรีเทน วัสดุตกแต่งฐานเกียร์ สีดำ มือเปิดประตูด้านใน สีดำ เบาะนั่งด้านหลัง พับได้ ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า สีภายใน สีดำ
มาตรวัดและอุปกรณ์ อำนวยความสะดวก มาตรวัดแบบ Analog พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด (Eco Meter) ลำโพง 2 ตำแหน่ง กระจกมองข้าง ปรับธรรมดา ส่วนระบบความปลอดภัย ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ระบบเบรก ABS/EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง ระบบละลายฝ้ากระจกหลัง เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL
มาพร้อมเครื่องยนต์ 3NR-FE Dual VVT-i 4 สูบ DOHC ให้อัตราการเร่งด้วยเครื่อง 1.2 ลิตร ประหยัดพลังงานให้อัตราการเร่งสูงสุด 63 กิโลวัตต์ (86PS) ที่ 6,000 รอบต่อวินาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร (11.0กก-เมตร) ที่4,000 รอบต่อวินาที เป็นอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-I ให้อัตราการเข้าเกียร์ของคุณมีจังหวะที่นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ EPS (Electric Power Steering) มั่นใจทุกการควบคุม ระบบช่วงล่างทรงประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนนุมนวลด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัท  และ กุญแจป้องกันการโจรกรรม มั่นใจ 2 ชั้นป้องกันไม่ให้สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ป้องกันการปลอมกุญแจ รวมทั้ง ระบบเบรก ABS ปลอดภัยขณะเบรกกะทันหัน

5. Suzuki Celerio 1.0 GL CVT ราคา 443,000 บาท

Suzuki Celerio พื้นที่บริเวณเหนือศีรษะด้านหน้าสูง และการดีไซน์พื้นที่วางขาที่คำนึงถึง ระยะห่างระหว่างผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังที่คุณจะรู้สึกรื่นรมย์ตลอดการเดินทาง พวงมาลัยพาวเวอร์ celerio พวงมาลัยพาวเวอร์ ปรับระดับได้ (GL/GLX) เพื่อให้เหมาะสมกับสรีระ และความถนัดในการขับขี่ มาตรวัดรอบ celerio มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ อุปกรณ์มาตรวัดน้ำมัน จอแสดงผลอัตราสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิงและมาตรวัดระยะเดินทางที่มาพร้อมกับนาฬิกาดิจิตอล (GLX) ระดับเกียร์ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับการขับขี่ เบาะนั่งนุ่มสบายสามารถปรับเลื่อนให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ได้
พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 254 ลิตร จัดวางสิ่งของได้ง่าย ทั้งยังสามารถพับเบาะหลังได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บของได้หลากหลาย นอกจากนี้ ยังออกแบบ ระดับความสูงที่สามารถยกสัมภาระเข้า-ออกได้สะดวกขึ้นตอบโจทย์ด้านประโยชน์ใช้สอยได้สมบูรณ์แบบ ระดับความสูงจากพื้น 692 มิลลิเมตร ให้คุณสามารถยกสัมภาระเข้า-ออก ได้อย่างสบาย ขับสบายๆด้วย ช่องเก็บของและที่วางเครื่องดื่มมากถึง 5 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์ suzuki celerio แรงเต็มพลังด้วย เครื่องยนต์ K10B 12 วาล์ว เป็นเครื่องยนต์ที่ เน้นน้ำหนักเบาและลดแรงเสียดทานที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้สมบูรณ์แบบ ให้สัมผัสที่นุ่มนวลขณะขับขี่ พร้อมประหยัดน้ำมัน 20 กม. ต่อลิตร เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยถุงลมนิรภัย SRS บริเวณที่นั่งคนขับเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับรถทุกรุ่น ช่วยลดการบาดเจ็บบริเวณศีรษะและหน้าอกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และระบบป้องกันล้อล็อก ABS ทั้งสี่ล้อ เพิ่มประสิทธิภาพในการ หักหลบสิ่งกีดขวาง โดยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยอิเลคทรอนิกส์ ช่วยกระจายแรงเบรกแต่ละล้ออย่างสมดุล เสริมความสามารถในการเบรกให้ดีขึ้น (GL/GLX) คล่องตัวสุดๆ ทั้งนอกเมืองและในเมือง ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด เพียงแค่ 4.7 เมตร เท่านั้น ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง : แบบ 1 จังหวะ พร้อมที่ฉีดน้ำ ขนาดยาง 165/65 R14 ล้อกระทะพร้อมฝาครอบ แผงบังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับ แผงกั้นห้องผู้โดยสารและห้องสัมภาระ พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ ระบบเครื่องเสียง เครื่องเล่นเพลง / Playback 2 Din, MP3, USB ระบบเซ็นทรัลล็อก กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้า

6.MG3 Hatchback 1.5 C ราคา 479,000 บาท

MG3 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1,500 ซีซี ให้กำลัง 106 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Selematic5 สปีด พร้อมโหมดการขับแบบธรรมดา และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต พวงมาลัยใช้ระบบพาวเวอร์ไฮโดรลิกที่หนักแน่น ให้วงเลี้ยวแคบ 5.6 เมตร ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแมคฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบีมแบบ H-Type ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ด้านหลังเป็นดรัมเบรก
ด้านหน้าพบกับไฟหน้าขนาดพอเหมาะพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ กระจังหน้าแนวยาวเชื่อมต่อไฟหน้าทั้งสองข้าง มุมด้านล่างติดตั้งไฟเดย์ไลท์ LED เป็นเส้นล้อกับช่องรับลมอย่างลงตัว ตัวถังแบบแฮทช์แบ็คที่มีสัดส่วนฝากระโปรงหน้ายาว สวมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว สีตัวถังแบบทูโทน และเสา A-Pillar สีดำส่งเอกลักษณ์แบบรถยนต์สไตล์อังกฤษเป็นอย่างดีส่วนตัวถังมีให้เลือกถึง 6 แบบ ได้แก่ สีขาว สีเงิน สีดำ สีทูโทนแดง-ขาว สีทูโทนน้ำเงิน-ขาว และสีทูโทนเหลือง-ดำ
ไฟท้ายขนาดใหญ่ออกแบบติดกับมุมด้านบนของตัวถัง ด้านล่างพบกับชุดแต่งดิฟฟิวเซอร์และท่อไอเสียรูปสี่เหลี่ยมดีไซ?น์สวยแปลกตาตัวถังรถยาว 4,018 มิลลิเมตร กว้าง 1,728 มิลลิเมตร และสูง 1,517 มิลลิเมตร ภายในมาพร้อมชุดตกแต่งและเบาะนั่งหนังสีดำ คอนโซลหน้าติดตั้งชุดเครื่องเสียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยระบบบลูทูธ ระบบปรับอากาศหน้าจอดิจิตอล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และหลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยที่จัดให้ครบทุกรุ่นย่อย โดยมีทั้งระบบเบรก ABS EBD และ BA ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวในทางชัน HAS ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เซ็นเซอร์ถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า

7.Nissan March 2017 รุ่น 1.2E MT ราคา 451,000 บาท
Nissan March ภายในห้องโดยสารจัดวางองค์ประกอบก็ถอดกันมาเลยรวมถึงจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว มีระบบนำทาง รองรับ Apple CarPlay กับลูกเล่นการตกแต่งอย่างแถบประดับหลากสีมีมาให้เลือกเพียบ ห้องโดยสารก็จะกว้างขวางมากขึ้นด้วยการขยายฐานล้อออกในทุกมิติเพื่อความสะดวกสบาย
ในขณะที่อุปกรณ์ก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยฟีเจอร์ไฮเทคในทุกรุ่นย่อยเพื่อให้เป็นรถระดับ B-Segment ที่ชาญฉลาดมากที่สุดคันหนึ่ง เช่น ระบบป้องกันการเปลี่ยนช่องทางจราจร, ระบบเบรกฉุกเฉินเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้านหน้ารวมถึงคนเดินถนนพร้อมระบบแจ้งเตือน และแสดงภาพรอบคัน, ระบบลดไฟสูงอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา
มาพร้อมออปชั่นเครื่องเสียงของโบส ให้เลือก ด้วยชุดลำโพง 6 ตัว และยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 แบบ ทั้งเบนซิน และดีเซล โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซินที่ แบบ 3 สูบ ขนาดเพียง 0.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า และให้แรงบิดถึง 140 นิวตันเมตร (โอเวอร์บูสต์ได้ถึง 150) ส่วนอีกบล็อกเป็นขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 73 แรงม้า และแรงบิด 95 นิวตันเมตร ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลมีแบบเดียวคือ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า และแรงบิด 220 นิวตันเมตร ซึ่งทุกแบบตอนนี้มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 สปีดให้ใช้เพราะชาวยุโรปยังนิยมกันมากอยู่ ซึ่งในเรื่องขุมพลังของ Nissan March 2017 ใหม่ นี้จะแตกต่างกันไปตามรสนิยมของลูกค้าในแต่ละภูมิภาค

8.Mitsubishi Mirage GLX (CVT) ราคา 478,000 บาท
รถอีโคคาร์คันเล็กแต่พกความประหยัดเต็มเปี่ยม มาพร้อมการออกแบบด้านหน้าใหม่เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ทั้งกระโปรงหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้า-หลัง ด้านล่างกระจังหน้าตกแต่งแบบโครเมียม รวมทั้งไฟท้ายแบบ LED พร้อมแผ่นสะท้อนแสงบริเวณกันชนท้ายเพิ่มความสวยงามล้ำสมัยและมองเห็นได้ อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID และ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ปรับพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า ตกแต่งวัสดุภายในโทนสีดำแบบ Piano Black บริเวณแผงคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ และแผงประตู เบาะหลังปรับพับแบบ 60:40 ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงพร้อมระบบควบคุมการสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับสาย-วางสายที่พวงมาลัย มาตรวัดการขับขี่แบบ Semi-High Contrast แบบเรืองแสงตลอดเวลา พร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ RISE Body ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ “High Tensile Steel” ช่วยลดการยุบของห้องโดยสารจากการชน
Mitsubishi Mirage 2016 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III*3 CVT พร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) ที่ช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก และระบบ G-SENSOR ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน