ในเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา แลมโบร์กินีฮูราคานเพอร์ฟอร์แมนเตได้สร้างความฮือฮาแก่วงการมอเตอร์สปอร์ระดับโลกก่อนการเปิดตัว ด้วยการสร้างสถิติใหม่ของรถแข่งผลิตใหม่ด้วยเวลาการแข่งขันต่อรอบที่ 6:52.01 นาที ซึ่งเร็วกว่ายานยนต์รุ่นก่อนถึง 5 วินาที ในการแข่งขัน ณ สนามเนือร์บูร์กริงนอร์ดชไลเฟอ ประเทศเยอรมนี
แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต คือสุดยอดยานยนต์ไดนามิกที่มอบสมรรถนะสูงสุดทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่ง ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง มาพร้อมโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดภาระของตัวรถและติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ALA ที่จดสิทธิบัตรของแลมโบร์กินี ทำหน้าที่เสริมประสิทธิภาพการเร่งเครื่องยนต์ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วในเสี้ยววินาที ด้วยความสามารถในการลดแรงต้านอากาศ ทำให้สามารถเข้าโค้งและหยุดรถได้อย่างเฉียบคม เครื่องยนต์รุ่นปรับปรุงใหม่รุ่น5.2 / V10ของฮูราคานมอบกำลังขับเคลื่อนสูงถึง 640 แรงม้าสามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดมากกว่า325 กม./ชม. ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งนี้ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานนักขับให้เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของยานยนต์สายพันธุ์แลมโบร์กินีอย่างแท้จริง
สำหรับ แมคลาเรน 720เอส ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสัตว์ร้ายตัวใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นที่ 2 ในตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ของแมคลาเรนด้วยดีไซน์อันสวยงามโฉบเฉี่ยวดุจฉลามร้ายพร้อมสมรรถนะและขุมพลังที่เหนือชั้น เบาะที่นั่งทั้งสองตำแหน่งถูกออกแบบมาให้มีความโค้งเฉพาะตัวที่สอดรับกับสรีระนักขับตามหลักอากาศพลศาสตร์โครงช่วงล่างใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมMonocage IIที่พัฒนาจากMcLaren P1 ที่มีนำหนักเบาลงกว่ารุ่น 650s ถึง 18 กิโลกรัม และใช้ระบบช่วงล่างแบบแอ็คทีฟที่ติดตั้งด้วยระบบควบคุม Proactive Chassis Control IIส่วนฝาครอบหลังคากระจกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษมอบวิสัยทัศน์อันน่าทึ่งไม่ว่าจะขับขี่ในโหมดComfort, Sport หรือ Track มอบการควบคุมที่ง่ายดายและแม่นยำด้วยพวงมาลัยระบบไฟฟ้าไฮดรอลิก โดยเครื่องยนต์ V8สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาทีและ 0-200 ใน7.8วินาที ซึ่งโดดเด่นกว่าขู่แข่งในระดับเดียวกัน และทำความเร็วสูงสุดที่ 345 กม./ชม.
นอกจากนี้ภายในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 38 นิชคาร์กรุ๊ปจะจัดแสดง แลมโบร์กินี ฮูราคานสไปเดอร์ (Lamborghini HuracánSpyder) ซึ่งเปิดตัวที่โชว์รูมนิชคาร์ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย แลมโบร์กินี ฮูราคานสไปเดอร์ เป็นยานยนต์คูเป้ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและสมรรถนะขั้นสูงของเครื่องยนต์ V10 ที่พร้อมพาคุณพุ่งทะยานไปดังใจฝันด้วยเทคโนโลยีขั้นสุด และแลมโบร์กินีฮูราคานคูเป้ (Lamborghini HuracánCoupe)ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้รับการพัฒนาในการขับให้เป็นไปด้วยความราบลื่นยิ่งขึ้นโดยการขับขี่ในโหมด STRADA จะมอบความความสะดวกสบายและการยึดเกาะที่เป็นเยี่ยม ส่วนโหมด SPORT ช่วยให้การควบคุมพวงมาลัยเป็นเรื่องที่เร้าใจขั้นสุด และโหมด CORSA เพื่อนักขับในสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยทุกโหมดขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ V10 ขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ และใช้ระบบส่งกำลังคลัทช์คู่แบบ 7 สปีด
รถยนต์อีกสองรุ่นที่นิชคาร์ภูมิใจนำเสนอในงานนี้ คือแมคลาเรน570S(McLaren 570S Coupé) โมเดลแรกในสปอร์ตซีรียส์ของตระกูลแมคลาเรนได้รับการออกแบบและตกแต่งเครื่องยนต์โดยทีมผู้มีความเชี่ยวชาญพร้อมด้วยทีมปฏิบัติการฟอร์มูล่าวันสปอร์ตซีรีส์พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถขับได้ในทุกวันดีไซน์แบบ“Shrinkwrapped” เพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศตลอดตัวถังโครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แบบMonoCell II ยังสร้างรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและเอื้อในการเข้า-ออกตัวรถประตูผลิตจากอลูมิเนียมเป็นหลักเพื่อลดน้ำหนักและเพื่อการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์ที่ประณีตและใช้เครื่องยนต์V8 ทวินเทอร์โบที่ให้สมรรถนะและประสิทธิภาพสูงสุดและ แมคลาเรน 540ซี คูเป้ (McLaren 540C Coupé) สปอร์ตคาร์ขนาดเล็กแต่เปี่ยมด้วยสมรรถนะความเร็วและแรงทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน ด้วยอัตราส่วนกำลังเครื่องต่อน้ำหนักในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมจึงมีความคล่องตัวสูงในการขับเคลื่อน และถือเป็นรถยนต์แถวหน้าในคลาสเดียวกัน นำเสนอโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์และเครื่องยนต์ 3.8 ทวินเทอร์โบ v8 ที่มอบความแรงและสัมผัสที่เร้าใจยิ่งกว่า โดยเฉพาะเทคโนโลยีMcLaren Rolling Chassis โครงช่วงล่างป้องกันการพลิกคว่ำซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สุดยอดยนตกรรมจากอังกฤษและทำให้แมคลาเรนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตจนถึงปัจจุบันอีกทั้งข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะในงาน