จำนวนผู้เข้าชม : 382 ครั้ง
End Page
 
 
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ราคาเริ่ม 1,659,000 บาท

 

 ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ได้รับการพัฒนาต่อยอดจาก ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่ 9 สู่อีกขั้นของยนตรกรรมไฮบริด โดยผสมผสานเอกลักษณ์การออกแบบ "Exciting H Design" เข้ากับความหรูหรา

สง่างามของดีไซน์ภายนอกและภายใน พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย
เหนือชั้นด้วยระบบการขับเคลื่อน
Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) แบบ Full Hybrid
ที่ให้กำลังการขับเคลื่อนสูงสุดทั้งระบบ
215 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้สามารถขับขี่
ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
(EV Drive Mode) ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ชม. ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 23.8 กม./ลิตร* พร้อมด้วยมิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย Honda SENSING เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียม

*ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ




 

 

ดีไซน์ภายนอก อีกก้าวของความสง่างาม

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ นำเสนอภาพลักษณ์ที่ผสมผสานความหรูหราและความสปอร์ตด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไฮบริด โดดเด่นทุกมุมมองด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์พิเศษตกแต่งด้วยเส้นสายสีฟ้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ที่ตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลัง (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยซันรูฟพร้อมระบบ One-touch (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นคุณ
ที่สง่างามในทุกมุมมอง

 

ดีไซน์ภายใน หรูหราทุกรายละเอียดที่สัมผัส

การออกแบบภายในของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ เพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหนังสีน้ำตาลใหม่ (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) พร้อมด้วยชุดตกแต่งภายในลายไม้และสีดำเปียโนแบล็ค สะดวกสบายในทุกการเดินทาง
ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ

  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) อีกระดับ
    ของการสั่งการแบบอัจฉริยะ ด้วยการสตาร์ทเครื่องยนต์และสั่งการเปิดเครื่องปรับอากาศได้จากระยะไกล เพื่อเตรียมพร้อมบรรยากาศที่ผ่อนคลายก่อนออกเดินทาง
  • § ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับดันหลังไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่ง
    เบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Memory Seat) เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
  • § ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา และสำหรับผู้โดยสารด้านหลังสะดวกสบายด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง
  • พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายกว้างขวาง ด้วยความจุถึง 424 ลิตร สามารถวางถุงกอล์ฟขนาดใหญ่ได้ถึง
    4 ใบ ด้วยตัวพื้นที่เรียบให้ความสะดวกสบายและง่ายต่อการเคลื่อนย้ายสัมภาระ

 

สู่มิติใหม่ของเทคโนโลยีแห่งการควบคุม และตอบสนองอย่างเหนือชั้นด้วยอุปกรณ์เชื่อมต่อล้ำสมัย

ตอบรับการใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์และล้ำสมัยมากขึ้นกว่าที่เคย ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบรองรับ Apple CarPlay หรือเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านระบบ MirrorLink พร้อมระบบสั่งการแบบอัจฉริยะ Smart Interface ให้คุณควบคุมเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย ข้อมูลรถยนต์ และระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ผ่านหน้าจอระบบสัมผัส พร้อมแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7.7 นิ้ว หรือควบคุมผ่านพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่มีสวิตซ์ควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ พร้อมปุ่มควบคุมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบอัจฉริยะ i-MID เพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่

 

อีกขั้นของความสมบูรณ์แบบของโลกแห่งนวัตกรรมไฮบริด

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมกับระบบไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) แบบ Full Hybridเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์วพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่องตลอดการขับขี่ ช่วยเพิ่มสมรรถนะ
การขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 315
นิวตันเมตร ซึ่งการทำงานของระบบไฮบริดทั้งระบบสามารถให้กำลังสูงสุดที่ 215 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ไฮบริดแบบลิเธียม-ไออน 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วและจ่ายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้อย่างต่อเนื่องและทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากการพัฒนาระบบไฮบริดครั้งนี้ ทำให้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 99 กรัม/กม.

 

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมระบบไฮบริดอัจฉริยะ ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ในขณะนั้น ดังนี้

  • § โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วให้กลับเป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และให้ความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
    ที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า
    ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็วที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
  • § โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อคอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง
    ให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ ซึ่งเหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่

 

พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนานและเร้าใจ ด้วยโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) เพียงกดปุ่ม Sport ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างคันเกียร์ ไฟสัญลักษณ์คำว่า Sport สีเขียว จะแสดงบนมาตรวัดขณะที่ใช้ระบบ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งทำความเร็วให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน 




เปลี่ยนโลกแห่งเทคโนโลยีความปลอดภัยให้หมุนตามคุณ

มิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายและความมั่นใจในทุกการเดินทางกับ Honda SENSING อีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาและยกระดับระบบความปลอดภัยของฮอนด้า โดยระบบความปลอดภัยจะผสานการทำงานของเรดาร์กับกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนนแล้วแจ้งเตือน พร้อมทั้งช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย
ทั้งของตัวผู้ขับและเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ประกอบด้วย 4 ระบบ ดังนี้

1)    ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน - Adaptive Cruise Control (ACC) เป็นระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับได้ตั้งค่าไว้ โดยจะทำการตรวจจับระยะห่างและความเร็ว
ของรถคันหน้า เพื่อปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม
อยู่ตลอดเวลา

2)    ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก - Collision Mitigation Braking System (CMBS) เป็นระบบที่ช่วยเตือนเมื่อมีรถคันข้างหน้าอยู่ในระยะ
ที่ไม่ปลอดภัย โดยจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับยังไม่ตอบสนองหรือในกรณีที่อยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้อัตโนมัติ  ซึ่งในครั้งนี้ระบบ CMBS ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งไม่เพียงตรวจจับ
รถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเท่านั้น แต่ยังเพิ่มการตรวจจับรถที่วิ่งสวนทาง รวมทั้งคนเดินถนนได้อีกด้วย

3)  ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ- Lane Keeping Assist System (LKAS) เป็นระบบ
ที่ตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ โดยกล้องด้านหน้าจะทำหน้าที่ตรวจจับเส้นแบ่งช่องทาง และจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัยเพื่อควบคุมรถให้อยู่ภายในช่องทางปกติตลอดเวลา

4)    ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ - Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) เป็นระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลและสั่นเตือนที่พวงมาลัย  ในกรณีที่รถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางมากขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย เพื่อความมั่นใจรอบทิศทาง อาทิ

  • § ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยจะใช้กล้องในการจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7.7 นิ้ว
  • กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย
    ในการถอย สามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน
  • § เสียงเตือนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (Acoustic Vehicle Alerting System - AVAS) เมื่อรถขับเคลื่อนในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ระบบจะส่งเสียงเตือนให้ผู้ที่อยู่ภายนอกรับรู้ว่ามีรถกำลังเคลื่อนตัวอยูในระยะใกล้
  • § ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light - ACL) ช่วยเพิ่มความสว่างด้านข้างของตัวรถ ขณะทำการเลี้ยวรถในเวลากลางคืน
  • § ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อมถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags เพื่อความปลอดภัย และช่วยลดอาการบาดเจ็บของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

 

พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน ได้แก่ โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MA-EPS) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)

 

รุ่นและราคา

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น HYBRID ราคา 1,659,000 บาท และ รุ่น HYBRID TECH ราคา 1,849,000 บาท

 

สี

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)  สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
สีขาวออร์คิด (มุก)  และสีดำคริสตัล (มุก) โดยมีสีภายในให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเบจ สีดำ และสีใหม่ คือ สีน้ำตาล (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/accordhybrid

 

หมายเหตุ:       

- อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

- สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท และ สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท

 





ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : รถweekly  
 ผู้บันทึก :
date : [ 28 ก.ค. 2559 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc