จำนวนผู้เข้าชม : 300 ครั้ง
End Page
 
 
เบ็นดิกซ์ตั้งไทยเป็นฐานการผลิตประจำภูมิภาค พร้อมเปิดโรงงานใหม่ ที่ระยอง

เอฟเอ็ม พี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอฟเอ็ม พี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผ้าเบรกเบ็นดิกซ์จัดพิธีเปิดโรงงานเบ็นดิกซ์เฟสที่ 2 อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเข้าร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย Mr. Graeme Dixon ผู้จัดการทั่วไปMr. David Woolfsonผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดและนายประพัฒน์อัศวาดิศยางกูร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาค และคณะผู้บริหารร่วมเป็นสักขีพยาน




นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า “การเปิดโรงงานเบ็นดิกซ์เฟสที่2   ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง สำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์  ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง และประเทศไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นไป  การขยายโรงงานของเบ็นดิกซ์ ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของประเทศในการเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญของโลกได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง และประเทศไทยเป็นอย่างมาก  และขอชื่นชมการใส่ใจในคุณภาพ และสิ่งแวดล้อมของทุกกระบวนการผลิตของโรงงานเบ็นดิกซ์แห่งนี้ ที่ได้มีการบริหาร และจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานได้เป็นอย่างดี  ซึ่งการันตีด้วยการได้รับรางวัล “อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry)” จากในปีที่ผ่านๆมา”




นายประพัฒน์  อัศวาดิศยางกูร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาค บริษัทเอฟเอ็ม พี ดิสทริบิวชั่น จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จทางยอดจำหน่ายผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ในปีที่ผ่านมาว่า“จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผ้าเบรกเบ็นดิกซ์กำลังการผลิตจากเดิมที่ได้ประมาณ 6 ล้านชิ้นต่อปี  นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด  เราจึงได้มีการลงทุนเพิ่มเติมในการสร้างโรงงานผลิตผ้าเบรกเบ็นดิกซ์เฟสที่ 2 ขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้ทุ่มงบครั้งใหญ่ 140 ล้านบาท ไม่รวมมูลค่าที่ดิน สร้างโรงงานเฟส 2 ในบริเวณเดียวกับโรงงานแรก เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตหลักประจำภูมิภาค โดยสามารถขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว  ทำให้เพิ่มจำนวนการผลิตได้รวมได้มากกว่า 13 ล้านชิ้นต่อปีรวมทั้งมีการจ้างงานเพิ่มกว่าเท่าตัว จำนวนพนักงานรวม  250 คน    ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการตลาดที่มีสูงมากทั้งใน และต่างประเทศ   และในส่วนของสายการผลิตนั้นทางบริษัทฯ ได้มีการนำเทคโนโลยีการผลิตล่าสุด Hybrid Fusion Technology เข้ามาช่วยพัฒนาผ้าเบรกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ภายใต้นโยบาย“โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว”




สำหรับในปี 2558 ที่ผ่านมานั้นบริษัทมียอดจัดจำหน่ายรวมมากกว่า 800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20 %เมื่อเทียบกับปี 2557 แบ่งสัดส่วนเป็นตลาดในประเทศ 50 % และ ตลาดต่างประเทศ 50% ในปี2559 นั้นทางบริษัทฯได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้มากกว่า 40%ยอดขายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,100 ล้านบาท หากภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและคาดหวังว่าการเติบโตของบริษัท ฯ จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่ช่วยผลักดันภาคเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น ทางด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ในปีนี้ทางบริษัทฯได้จัดเตรียมงบประมาณอีกไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมไปถึงการขยายจำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และฝึกอบรมเทคนิคการรักษาระบบเบรกแก่ช่างที่เป็นศูนย์บริการตัวแทนของผ้าเบรกเบ็นดิกซ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่เข้ารับบริการ และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกระดับ นอกจากนั้น ยังมีการจัดกิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆให้กับร้านค้า ตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค รวมถึงการสนับสนุนมอเตอร์สปอร์ตเพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของผ้าเบรกเบ็นดิกซ์และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคต่อไป”นายประพัฒน์ กล่าวปิดท้าย



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : รถ weekly  
 ผู้บันทึก :
date : [ 03 มิ.ย. 2559 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc