ด้านนายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถมือสองในไตรมาสแรกของปี 2559 ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเติบโตในอัตรา 10 % และคาดว่าจนถึงสิ้นปีก็น่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนคือ การปรับโครงสร้างภาษีรถใหม่ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ราคารถบางรุ่นสูงขึ้น อีกประการหนึ่งคือลูกค้ามองว่ารถมือสองมีความคุ้มค่าคุ้มราคากว่า และปัจจัยต่อมาคือผู้ผลิตรถยนต์มีการลดกำลังการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมตลาด ทำให้รถบางรุ่นต้องรอ และกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถรอได้ก็จะตัดสินใจซื้อรถมือสองไปใช้งาน
“ตลาดมือสองดีขึ้นมาก รถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปีเป็นที่ต้องการของลูกค้า ในส่วนของผู้ประกอบการที่มีกว่า 4 พันรายทั่วประเทศที่มีการจดทะเบียนบางรายก็มีการขยายสาขา มีการทำตลาด และในบางรายที่เป็นสมาชิกของสมาคมก็มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่ต้องขอสินเชื่อเพื่อมาซื้อรถก็จะง่ายขึ้น”
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบกับตลาดรถมือสอง ประกอบไปด้วยรถที่หายากขึ้น ทั้งนี้เพราะแหล่งรถมือสองที่ปกติจะได้มาจากสถาบันการเงินที่มีการยึดรถจากลูกค้าที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลา แต่สถานการณ์ปัจจุบันคือสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้สถิติรถยึดน้อยลง และมีผลให้รถมือสองเข้ามาในตลาดน้อย ดังนั้นผู้ประกอบการรถมือสองต้องมีการหารถเข้ามาในเต็นท์รถเอง
“ช่วง 2 – 3 ปีนี้ไฟแนนซ์เข้มงวดมาก ทำให้รถที่ไหลเข้ามาในตลาดรถมือสองน้อยลง ส่งผลให้เต็นท์รถหารถมาขายได้ยากขึ้น และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ช่วงที่ผ่านมามีการปรับราคารถมือสองขึ้นเล็กน้อย เฉลี่ย 5-10 % โดยกลุ่มรถมือสองที่ได้รับความนิยมคือรถกระบะ และรถอีโคคาร์ หรือรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ประมาณ 1.5 ลิตร”
นายวิสุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ได้มีการพูดคุยกับสมาชิกในสมาคมก็คือ การจัดสรรสต๊อกสินค้า โดยเฉพาะช่วงที่รถคันแรกใกล้จะหมดเงื่อนไขในปลายปีนี้ ซึ่งการซื้อขายจะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง หากซื้อเข้ามาจะต้องขายออกไปได้เร็ว โดยเฉลี่ยสต๊อกรถควรจะอยู่ประมาณ 2 เดือน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแคชโฟลว์หรือแบกสต๊อกมากเกินไป
ด้านนายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใช้แล้ว FAST Auto Show Thailand 2016 กล่าวว่า ตลาดรถมือสองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถที่มีสภาพดี ราคาเหมาะสมไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ ซึ่งจากทิศทางดังกล่าวทำให้ประเมินว่าตลาดมือสองจนถึงสิ้นปีนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง
“มีหลายเหตุผลที่ทำให้ตลาดรถมือสองเติบโต อาทิ ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเรื่องรถยนต์มากขึ้น ประกอบกับไฟแนนซ์ หรือบริษัทสินเชื่อ มีความผ่อนคลายบวกกับการจัดเกรดคุณภาพรถยนต์ มีการตรวจเช็กสภาพในการจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของรูปแบบการใช้งาน ”
