พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจราจร(รองผบก.จร.) กล่าวว่า จากนโยบายพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรในเมืองท่องเที่ยวเที่ยวทั่วประเทศไทยโดย การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดใน 10 ข้อหาหลักได้แก่1.ขับขี่รถบนทางเท้า 2.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 3.ข้ามถนนผิดกฎหมาย/ไม่หยุดรถให้คนข้าม 4.ไม่ขาดเข็มขัดนิรภัย 5.ขับรถประมาทหวาดเสียว 6.ขับรถขณะเมาสุรา 7.ไม่สวมหมวกกันน็อค 8.ก่อมลพิษทางเสียง 9.จอดรถในที่ห้าม 10.จองถนนเป็นที่จอดรถ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)จะเริ่มนำร่องในกรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ ซึ่งการดำเนินการงานนั้นจะแบ่งเป็น 2 พื้นที่คือ1.เขตรณรงค์ 2.เขตควบคุมเด็ดขาด โดยเขตรณรงค์นั้นจะมีการติดป้ายแจ้งเตือนและขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติ ตามกฎหมาย ด้านเขตควบคุมเด็ดขาดรวมทั้งจับ-ปรับในอัตราสูงสุดโดยไม่มีการลดหย่อนทันที เมื่อพบว่ามีผู้กระทำความผิดพร้อมทั้งจะติดป้ายแจ้งให้ประชาชนทราบ
พ.ต.อ.เอกรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกองบัญชาการตำรวจ นครบาล(บช.น.)จะต้องคัดเลือกพื้นที่ที่มีปัญหาและเป็นจุดท่องเที่ยวอาทิ วัดพระแก้ว ถนนข้าวสาร จุดที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพชั้นในที่พบว่ามีการจราจรหนาแน่น ทั้งนี้หากบช.น.ดำเนินการคัดเลือกพื้นที่เสร็จสิ้นจะต้องส่งรายละเอียดให้สต ช.พิจารณาคัดเลือกจุดอีกครั้ง ซึ่งภายหลังจากได้พื้นที่ควบคุมแล้วสน.ท้องที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเขต ของตนเองและในการปฏิบัติต้องหาเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลจุดที่มีปัญหาพร้อมทั้ง รายงานการปฏิบัติ ขณะนี้ทางสตช.ได้เร่งรัดให้สรุปพื้นที่ของแต่ละจังหวัดนำร่องมาโดยเร็วที่ สุด ซึ่งขณะนี้ทางบช.น.ยังอยู่ระหว่างกำหนดจุดที่สำคัญๆคาดว่าจะสามารถควบคุม บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาได้ประมาณเดือนเม.ย. 59 นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายทางสตช.ต้องการที่จะแก้ไขปัญหาการ จราจรในจุดท่องเที่ยวที่นับวันจะมีปัญหามากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมืองที่เป็น เมืองเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ ดีให้แก่ประเทศ
สำหรับอัตราโทษในข้อหา ต่างๆมีดังนี้1.ขับขี่รถบนทางเท้า มีโทาปรับสูงสุด 1,000 บาท 2.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปีปรับไม่เกิน 10,000 บาท 3.ข้ามถนนผิดกฎหมาย/ไม่หยุดรถให้คนข้าม มีโทษสูงสุดปรับ 200 บาท 4.ไม่ขาดเข็มขัดนิรภัยมีโทษปรับสูงสุด 500 บาท 5.ขับรถประมาทหวาดเสียวมีโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท 6.ขับรถขณะเมาสุรามีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี ปรับตั้งแต่5,000-20,00 บาท 7.ไม่สวมหมวกกันน็อคมีโทษปรับสูงสุด 500 บาท 8.ก่อมลพิษทางเสียง มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท 9.จอดรถในที่ห้าม มีโทษปรับสูงสุด 500 บาท 10.จองถนนเป็นที่จอดรถมีโทษปรับสูงสุด 500 บาท.“
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : http://www.dailynews.co.th/bangkok/385963
